แผ่นดินไหวที่ดินกลางเมือง 'มิกซ์ยูส-คอนโดลักชัวรี' ไม่สิ้นมนต์...
Loading

แผ่นดินไหวที่ดินกลางเมือง 'มิกซ์ยูส-คอนโดลักชัวรี' ไม่สิ้นมนต์...

วันที่ : 7 พฤษภาคม 2568
สโคป สะท้อนว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นการลงทุนที่เต็มไปด้วยโอกาสและสามารถสร้างผลตอบแทนได้ โดยเฉพาะในเซกเมนต์อัลตร้าลักชัวรี ที่กลุ่มกำลังซื้อสูง
   แม้กรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหว ในทางกลับกันพบว่าที่ดินทำเลทองย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD ราคาที่ดินมีแนวโน้มขยับต่อเนื่องจากความนิยมของคนเมือง

   โดยทำเล ย่าน หลังสวนวิทยุ -เพลินจิต-ชิดลม ราคาซื้อขายตารางวาละ 4 ล้านบาท จากการลงทุนของดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำมีอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจาก "โครงการ สินธร วิลเลจ หลังสวน" ได้วางรากฐาน มาตั้งแต่ 12 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน โดยพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสรูปแบบลิสโอลด์บนที่ดินแปลงใหญ่รวม 56 ไร่ โดยบริษัท สยามสินธร จำกัด

   สร้างปรากฏการณ์ฉุดให้พื้นที่โดยรอบขยายตัวและเติบโตพร้อมกันเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ ถนนหลังสวน วิทยุ สารสิน ชิดลม เพลินจิต ราชประสงค์ ราชดำริ พระราม4 ฯลฯ ที่ดินราคาสูงอย่างต่อเนื่อง "สืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย" รองกรรมการผู้จัดการ "สยามสินธร" ระบุว่าช่วง 10 ปี จนถึงปัจจุบันราคาที่ดินทำเลหลังสวน แตะ 4 ล้านบาทต่อตารางวานับตั้งแต่บมจ.แสนสิริซื้อที่ดินบนถนนสารสินและมีแนวโน้มปรับขึ้นได้อีก

   ปัจจุบัน "สินธร วิลเลจ" มีโครงการคอนโดมิเนียมรอปิดการขายอีกไม่กี่หน่วยภายในปีนี้ รวมถึง มีเป้าหมายขยายโครงการมิกซ์ยูสในทำเลศักยภาพต่อเนื่อง นอกจากความเป็นเมืองสีเขียวแล้ว ที่ผ่านมาแม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่สำหรับที่นี่แล้วไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะการออกแบบโครงสร้างของอาคารที่มีมาตรฐานสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และได้บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เป็นมืออาชีพ

   ขณะการขยับตัวของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ ทั้งไทยและต่างชาติ "ฐานเศรษฐกิจ" สำรวจพบว่า มีความเคลื่อนไหวไม่ขาดสาย เนื่องจากมีที่ดินรอพัฒนาในมืออยู่ก่อนแล้วและยังเดินหน้าโครงการตามแผน เพราะมีเป้าหมายว่า กว่าโครงการ จะดำเนินการตามขั้นตอนและแล้วเสร็จ อีกประมาณ 3- 5 ปีข้างหน้าอาจเป็นจังหวะที่เศรษฐกิจ รวมตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาพลิกฟื้นที่ดี ผู้ประกอบการมีกระสุนตุนในมือ

   ล่าสุดทำเลบนถนนวิทยุเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นเมื่อคนในตระกูลธนาคารกรุงเทพ "ชาลี โสภณพนิช" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด ได้ฤกษ์ เปิดหน้าดินพัฒนาโครงการร่วมกับ พันธมิตร นักลงทุนฮองกง "ทิม แบล็คเบิร์น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด หลังจากได้รับอนุมัติการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ช่วงไตรมาสแรกปี 2568 และเริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี บนที่ดิน ฟรีโฮลด์ 7.9 ไร่ (12,652 ตร.ม.) ซึ่งเป็นโครงการไฮไรส์ จำนวน 2 อาคาร สูง 52 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต และ 71 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต โดยล้อมรอบด้วยวิวสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงแรมห้าดาว โรงเรียนนานาชาติ สถานทูตสำคัญคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี2572

   หากย้อนไปก่อนหน้านี้ บมจ.แสนสิริ เขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ทำนิวไฮซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นตัวแปรที่ผลักดันที่ดินในย่านหลังสวนวิทยุ ราคาแตะที่ 4 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน เนื้อที่ 1 ไร่ บนทำเลทองถนนสารสิน ติดสวนลุมพินีเขตปทุมวัน ราคาตารางวาละ 3.9 ล้านบาท หรือไร่ละ 1,560 ล้านบาท โดยปิดดีลเมื่อเดือนเมษายน 2563 ช่วงจังหวะที่ประเทศเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19

   โดย "อุทัย อุทัยแสงสุข" กรรมการผู้จัดการใหญ่ "แสนสิริ" ประกาศแผนพัฒนา โครงการคอนโดมิเนียม ซูเปอร์ลักชัวรี คาดว่าตารางเมตรละ 1 ล้านบาท ซึ่งมองว่าเป็นทำเล CBD ของย่านสวนลุมพินี เพราะไม่มีที่ดินแปลงใดบดบังทัศนียภาพ

   ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนและศึกษา โดยกำหนดให้เป็นโครงการเรือธงของแสนสิริในอนาคต หลังประสบความสำเร็จกับโครงการ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) บนถนนวิทยุมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการอัลตร้าลักชัวรี ทำเลชิดลม โดยมียอดจองโครงการล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่เริ่มโครงการและอีกโครงการตั้งอยู่ทำเลสุขุมวิท51

   ไม่พูดถึงไม่ได้ "สโคปหลังสวน" ใกล้สถานีบีทีเอส ชิดลม คอนโดมิเนียมสุดหรู "เพนต์เฮาส์" ทั้งโครงการแห่งแรกของไทย สร้างสถิติใหม่ราคาขาย-เช่าต่อตารางเมตร สูงอันดับต้นๆ ในตลาดอสังหา ริมทรัพย์ ไทย ประกาศขายต่อห้องสูงถึง ตารางเมตรละ 1.2 ล้านบาท ปล่อยเช่า 2,500 บาท/ตารางเมตรและมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ดินฟรีโฮลด์ที่หาได้ยากยิ่ง

   "ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด สะท้อนว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นการลงทุนที่เต็มไปด้วยโอกาสและสามารถสร้างผลตอบแทนได้ โดยเฉพาะในเซกเมนต์อัลตร้าลักชัวรี ที่กลุ่มกำลังซื้อสูง

    ทั้งนี้ "SCOPE" เป็นบริษัทร่วมทุน กับ บมจ. เอสซี แอสเสท ของตระกูลชินวัติ ประมูลที่ดินมาในราคา 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา เนื้อที่ 880 ตารางวา เมื่อปลายปี 2560 ซึ่งเป็นราคาที่ดิน ทำเลกลางเมืองแตะหลัก 3 ล้านบาทแปลงแรกของไทยและทำให้ที่ดินทุกผืนขยับไปที่ 3 ล้านบาทต่อตารางวาทั้งเวิ้งในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนที่จะถูกแสนสิริ ล้มแชมป์ในปี 2563 และทำให้ราคาที่ดินทะยานต่อ ขณะราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างปัจจุบัน "ยงยุทธ์" ประเมินว่าราคา 5 ล้านบาทต่อตารางวา สำหรับทำเลนี้ เพราะที่ดินฟรีโอลด์หาไม่ได้แล้ว

   ไม่ห่างกันมากนัก โครงการ "เซ็นทรัลเอ็มบาสซี 2" หรือส่วนต่อขยาย บริเวณด้านหลังของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี 1 ซึ่งเดิมเป็นที่ดินของสถานทูตอังกฤษ ล่าสุดพัฒนาเป็น โครงการมิกซ์ยูสโดย บริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ฮ่องกงแลนด์ จำกัดและ บริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำ EIA ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ภายในและขยายขนาดโครงการบนพื้นที่กว่า 23 ไร่ มีความสูง 53 ชั้น รวมทั้งชั้นห้องเครื่อง 3 ชั้น และชั้นใต้ดิน 6 ชั้น ซึ่งเป็นศูนย์รวม ทั้งสรรพสินค้า พาณิชยกรรม ห้องโถงสำนักงาน สถานศึกษา ภัตตาคาร ที่อยู่อาศัยรวม (ให้เช่าระยะยาว) และที่จอดรถและพัฒนาเชื่อมต่อกับ CENTRAL EMBASSY PARK (ตึกปัจจุบัน) ที่ชั้นใต้ดิน B5 - B2 และชั้นที่ 1 - ชั้นที่ 7 ที่คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี2572

   พลาดไม่ได้ สำหรับโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของ "วันแบง ค็อก" โครงการที่พัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) บนเนื้อที่ 108 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการ 1.2 แสนล้านบาท พื้นที่รวม 1.83 ล้านตารางเมตร บน ถนน วิทยุ พระราม4 ของตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25ตุลาคมปีที่ผ่านมาและทยอยเปิดพื้นที่ให้บริการต่อเนื่อง ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลง แลนด์มาร์คใหม่ของกรุงเทพมหานคร

   โครงการตรงข้าม โครงการ วัน แบงค็อก จะเห็น โครงการ "เดอะแกรนด์ เช็นเตอร์พอยต์ ลุมพินี" ของ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH โครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านค้าร้านอาหาร ช้อปปิ้งขนาดย่อม ที่พร้อมเปิดให้บริการ โดยที่ดินแปลงนี้ เดิมทีเป็นที่ตั้งของโรงงานท่อผ้าเก่า หรือ โรงงาน "ประณีตอุตสาหกรรม" ที่ ยกเลิกกิจการไปนาน เมื่อนำมาพัฒนาเป็นโรงแรมหรูจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมาก

   เช่นเดียวกับ "ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค"มิกซ์ยูส มูลค่า4.6หมื่นล้านบาท ทำเลบนหัวมุม ถนนสีลม-พระราม 4 บนที่ดิน 23 ไร่ที่เปิดโครงการไปบ้างแล้วและเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการต่อเนื่องรวมถึงโครงการที่พักอาศัยสุดหรู

   อีกทำเล สีลม-พระราม4 "อาคารศรีเฟื้องฟุ้ง"ทุบทิ้งและก่อสร้างขึ้นใหม่ ดำเนินโครงการโดยบมจ. เอสซีแอสเสท ซึ่งมีแผนพัฒนาเป็นโครงการหรูที่น่าจับตายิ่ง

   โดยสรุปที่ดิน ย่านศูนย์กลางธุรกิจ นอกจากไม่เคย "หลับ" แล้วยังไม่มีวันตาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!!
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ