นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI แสดงทรรศะต่อกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับข้อเสนอของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ให้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ Loan to Value Ratio (LTV) หรือการกำหนดสัดส่วนวงเงินสินเชื่อเทียบกับมูลค่าหลักประกัน สำหรับการซื้อบ้านสัญญาที่ 2-3 ไปพิจารณา โดยจากกระแสข่าวคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/2568 หรือไตรมาส 3/2568 ว่า เป็นสัญญาณที่ดี ที่ทางธปท. มีความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาพรวมให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเปิดรับฟัง-แลกเปลี่ยนข้อมูล สถิติสำคัญต่างๆ ร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา

       เนื่องจากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างเป็นภาคส่วนสำคัญที่สามารถกระตุ้น-ส่งต่อเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้โดยตรง ทั้งการจ้างงาน ซื้อวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ รวมถึงที่อยู่อาศัยถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่ประชาชนต้องการ ดังนั้นการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย มีรายได้เพียงพอที่จะซื้อ และมีเครดิตเพียงพอที่จะยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน (Real Demand) สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ เพิ่มมากขึ้น

     "กลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ การต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 หลังที่ 3 ปัจจุบันคือกลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว ซื้อให้บุตร หลานแยกครอบครัวออกไป ดังนั้นหากคนกลุ่มนี้ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 3 ในราคา 30 ล้านบาท ต้องหาเงินสดมาจ่ายกว่า 10-15 ล้านบาท ก็คงต้องคิดพิจารณาดีๆ ดังนั้นหากผ่อนเกณฑ์ลงก็จะเปิดโอกาสให้กับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อ และผู้ที่ต้องการขายให้สามารถปิดการขายได้"

      คาดเพิ่มกำลังซื้อ 8%

      นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศใช้เกณฑ์ LTV มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสกัดแรงซื้อเก็งกำไรในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรม อสังหาไม่มีแรงซื้อเก็งกำไรทั้งจากนักลงทุนไทย และนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นหาก ธปท. จะพิจารณาผ่อนเกณฑ์ LTV ช่วงคราวถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

     เนื่องจากลูกค้ากลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ และสามารถเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงินได้ ณ ปัจจุบันคือกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลาง-บน ที่ยังมีความสามารถในการซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือหลังที่ 3 สำหรับบุคคลในครอบครัว โดยทางกลุ่มบริษัทเคยรวบรวมสถิติตลอดช่วงที่ทางธปท.ยกระดับมาตรการ LTV ให้เข้มข้นขึ้น พบว่ากำลังซื้อกลุ่ม Real Demand ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวในกรอบ 7-8% ดังนั้นหากสามารถผ่อนคลายมาตรการ LTV ลงเป็นการชั่วคราวได้ คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังซื้อเข้ามาในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้ราว 7-8% เช่นกัน

     ชู SIRI - SPALI เด่น

     บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่ากลุ่มอสังหาริมทรพย์จะได้รับปัจจัยบวกจากข่าวการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมทบทวนเกณฑ์ LTV ให้ผ่อนคลายมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่นำกลับมาใช้เกณฑ์ LTV ที่เข้มงวด ซึ่งหากมีการผ่อนคลายลงจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความสามารถในการซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือหลังที่ 3 ทำให้สามารถช่วยระบาย สต๊อกเหลือขายให้กับผู้ประกอบการอสังหาได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดที่มีสินค้าคงเหลือ และมี Backlog จำนวนมาก เช่น SIRI, SPALI และ ORI โดยเลือก SIRI เป็น Top Pick ในกลุ่มนี้ ราคาเหมาะสม 2.10 บาท หนุนจากโอกาสที่กำไรในปี 2568 จะทำ New High ต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีการจ่ายปันผลที่สูงราว 8-9% ต่อปี