นักลงทุนต่างชาติ แห่ซื้ออสังหาฯ ที่ดิน พัทยา ระยอง ตั้งโรงงาน ย้ายฐานการผลิต ดันราคาที่ดินพุ่งกระฉูด

   วันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายวัฒนพล ผลชีวิน นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี เปิดเผยว่า ผลพวงจากนโยบายทรัมป์ 2.0 และสงครามการค้าหรือเทรดวอร์ ทำให้มีนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน เข้ามาซื้อที่ดินก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่กลางปี 2567 จนถึงปัจจุบัน เช่น นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ นิคมอุตสาหกรรมอมตะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังหาซื้อที่ดินแปลงใหญ่ที่อยู่นอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย ส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้นถึง 20-30%

   นายวัฒนพลกล่าวว่า ทั้งนี้อานิสงส์จากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามา ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในพัทยามีแรงซื้อจากต่างชาติอย่างคึกคักขึ้นมากถึง 20% เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 49% ได้อยู่แล้วตามกฎหมาย โดยซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองในช่วงระหว่างที่ทำงานในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประเทศเอเชียและยุโรป โดยจีนยังเป็นลูกค้าหลัก เพราะมีโรงงานมาเปิด และซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2-4 ล้านบาท อยู่ทำเลเมืองพัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้

   นายวัฒนพลกล่าว ส่วนบ้านจัดสรรนั้น ต่างชาติจะซื้อผ่าน 2 รูปแบบ โดยซื้อในนามบริษัท ล่าสุดเป็นการซื้อผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งเมื่อนักลงทุนเข้ามาลงทุนแล้ว จะสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ โดยเริ่มมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมยังไม่ค่อยมีมากนัก และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงานและซื้อในราคา 5-7 ล้านบาท

   "ตลาดที่อยู่อาศัยโดยภาพรวมในพื้นที่ชลบุรี แม้จะมีกำลังซื้อต่างชาติที่ดูคึกคักขึ้น แต่กำลังซื้อในกลุ่มคนไทยยังไม่ฟื้นตัว และมีแนวโน้มสภาพตลาดปีนี้จะไม่ต่างจากปีที่แล้ว คือ กำลังซื้อยังไม่ฟื้น แบงก์ยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวก ยังไม่ได้รับการขยายอายุมาตรการ จึงทำให้คนชะลอการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นอยากให้ภาครัฐช่วยพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพราะการที่เศรษฐกิจไม่ดี ตลาดอสังหาฯก็ยังนิ่ง ยิ่งทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ยาก" นายวัฒนพลกล่าว

    นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ผลพวงจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของทรัมป์ 2.0 ทำให้ปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีนและไต้หวัน เข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ ไม่ว่าย่านบางนา-ตราด ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง เพื่อสร้างโรงงาน รองรับการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ซึ่งเริ่มเห็นมานับตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน เนื่องจากประเทศไทยเป็นพื้นที่มีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นอันดับที่สองของภูมิภาค จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ไม่แพ้ประเทศเวียดนาม ที่จะได้เปรียบเรื่องค่าแรง

    "เมื่อต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยได้อานิสงส์บ้าง สำหรับต่างชาติที่มองหาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่ผ่านมา ได้กำลังซื้อต่างชาติเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะกำลังซื้อในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ติดปัญหาเรื่องกู้แบงก์ไม่ผ่านสูง" นายพรนริศกล่าว