อสังหาฯอ่วม 'ที่ดิน-ค่าก่อสร้าง' ต้นทุนพุ่ง ดันโครงการใหม่ 'บ้าน-คอนโด' ปรับราคา
Loading

อสังหาฯอ่วม 'ที่ดิน-ค่าก่อสร้าง' ต้นทุนพุ่ง ดันโครงการใหม่ 'บ้าน-คอนโด' ปรับราคา

วันที่ : 7 กุมภาพันธ์ 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยผลสำรวจโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ย่านมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ขณะที่คอนโดมิเนียมย่านห้วยขวาง จตุจักร ดินแดง ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด
   บุษกร ภู่แส

   กรุงเทพธุรกิจ

   "ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นผลักดันราคาขายที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่กำลังซื้อประชาชนลดลงจากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ต่ำ ดังนั้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำของสถาบันการเงินรัฐจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ"

    หลายปีที่ผ่านมา ตลาดที่อยู่อาศัย ในประเทศไทยเผชิญกับการปรับตัวของราคา ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยหลายด้านที่มีอิทธิพลต่อการตั้งราคาขาย ตั้งแต่ต้นทุนการก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นไปจนถึง ราคาที่ดินในทำเลสำคัญ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ บริเวณที่มีการคมนาคมสะดวก เช่น แนวรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT

    ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยผลสำรวจโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ย่านมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ขณะที่คอนโดมิเนียมย่านห้วยขวาง จตุจักร ดินแดง ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด

    โดยบ้านจัดสรรใหม่ ราคาปรับขึ้น 0.8% ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 9 ขณะที่ห้องชุดใหม่ หรือคอนโดมิเนียม เพิ่มขึ้น 3.6% ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 เป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง และ ค่าก่อสร้าง รวมถึงค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ที่อยู่อาศัยในโครงการเปิดขายใหม่มีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และแนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่มี ความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    คอนโด 'สมุทรปราการ-นนทบุรี' ขยับแรง 4.2%

    ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่าง การขาย ไตรมาส 4 ปี 2567 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 159.9 จุด เพิ่มขึ้น 3.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สะท้อนถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ "ที่ดิน" แนวรถไฟฟ้าที่มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ รถไฟฟ้า BTS สายสีลม และ MRT สายสีน้ำเงิน

    โดยราคาห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 3.4% แต่ราคาเพิ่มขึ้นในอัตรา ที่ต่ำกว่าราคาห้องชุดในพื้นที่ 2 จังหวัดปริมณฑล สมุทรปราการ และนนทบุรี เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    ส่วนอาคารชุดในกรุงเทพฯ ที่มีราคา เพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านห้วยขวาง-จตุจักรดินแดง ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนทำเลปริมณฑล ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ ย่านสมุทรปราการ-พระประแดง- พระสมุทรเจดีย์ ในกลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการจัดรายการ ส่งเสริมการขายห้องชุด โดยให้ส่วนลดเงินสดในสัดส่วน 25.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีสัดส่วน 21.7% เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อเช่นเดียวกับโครงการบ้านจัดสรร

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับราคา

    สำหรับดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าดัชนี 131.4 จุด เพิ่มขึ้น 0.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเพิ่มขึ้น 2.3% สูงกว่าพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ที่มีค่าดัชนีลดลง 1.0% โดยการลดลงดังกล่าวเกิดจากการ "ลดราคา" ของดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์

    เมื่อแยกประเภทบ้านจัดสรร พบว่า ราคาบ้านเดี่ยวปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 2.1% ทาวน์เฮ้าส์ปรับราคาเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการ จัดรายการส่งเสริมการขาย โดยการ ให้ส่วนลดเงินสดในไตรมาสนี้สูงถึง 29.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วน 21.0% ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย

    บ้านเดี่ยวในกรุงเทพ ฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้น สูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ ย่านมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ในกลุ่มราคาเกิน 10 ล้านบาท ส่วนทำเลบ้านเดี่ยวใน 3 จังหวัดปริมณฑล ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านลำลูกกา คลองหลวง ธัญบุรี ในกลุ่มราคา 7.5-10 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านพระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ ในกลุ่มราคา 5-7.5 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮ้าส์ใน 3 จังหวัดปริมณฑล ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านบางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง ไทรน้อย ในกลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท

    ส่วนต้นทุนค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน (HCCI) ค่าดัชนีเท่ากับ 139.9 เพิ่มขึ้น 4%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงต้นทุนค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจาก การเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างและ ค่าแรงงาน โดยสุขภัณฑ์ ราคาเพิ่มขึ้น ถึง 12% กระเบื้อง 5.6% อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา 3.7% ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 2.2% และ วัสดุอื่นๆ 5.7% เป็นผลจากราคาน้ำมัน และราคาพลังงานที่สูงขึ้นในตลาดโลก ส่วนค่าแรงงานเพิ่มขึ้น 4%

    ทั้งนี้ ภาวะที่ต้นทุนค่าก่อสร้าง ปรับราคาเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ราคาขาย ที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ปรับเพิ่มขึ้น! ขณะที่กำลังซื้อของประชาชน "ลดลง" จากภาวะเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ต่ำ ดังนั้น คาดว่า โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัย "ดอกเบี้ยต่ำ" ของสถาบันการเงินรัฐ จะช่วยกระตุ้น การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลดีต่อ ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงต้นปี 2568 ได้