ตลาดที่อยู่อาศัยเมืองกรุงฟื้นตัว
วันที่ : 22 มกราคม 2568
อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯปี 2568 ยังไม่ปกติ เชื่อว่าปีนี้น่าจะยังคงเป็นเกมของการลดราคา เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ต้องนำเงินไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้
ปี'68ลุ้นขยาย10%เชื่อพ้นจุดต่ำสุด
แห่เปิดโครงการใหม่6.7หมื่นยูนิต
ส่องตลาดที่อยู่อาศัย กทม. ปริมณฑล ปี'68 ลุ้นฟื้นตัว 10% ผ่านจุดต่ำสุดปี'67 โชว์เปิดตัวใหม่ 381 โครงการ กว่า 6.7 หมื่นยูนิต มูลค่าพุ่ง 4.7 แสนล้าน สวนสต๊อกเหลือ 2.39 แสนยูนิต มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท ปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าโอน-จำนองต่อ 'อนันดา'เน้นระบายของเก่า กำเงินสด
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า คาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2568 ฟื้นตัวขึ้นจากปี 2567 ประมาณ 10% ยังต่ำกว่าที่เคยมีการขายนับแสนหน่วยในช่วงก่อน หากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ตลาดที่อยู่อาศัยไทยอาจฟ้นตัวได้มากกว่านี้ เนื่องจากยังมีปัจจัยลบกระทบต่อกำลังซื้อ อาทิ มาตรการ LTV หนี้ครัวเรือน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภคหันมาเลือกเช่าแทนซื้อ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ยังไม่ประกาศต่ออายุ เป็นต้น
"ปี 2568 คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ 381 โครงการ หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน จำนวน 67,598 ยูนิต หรือเพิ่ม 10% มูลค่า 475,839 ล้านบาท เพิ่ม 15% ราคาเฉลี่ย 7.039 ล้านบาท เพิ่ม 4.5% แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 17,163 ยูนิต เพิ่ม 10% บ้านแฝด 5,604 ยูนิต เพิ่ม 5% ทาวน์เฮาส์ 14,238 ยูนิต เพิ่ม 15% ห้องชุด 30,724 ยูนิต เพิ่ม 10% ขณะที่หน่วยเหลือขายอยู่ที่ 239,168 ยูนิต เพิ่ม 2% มูลค่ากว่า 1.34 ล้านล้านบาท เพิ่ม 5%" นายโสภณกล่าว
นายโสภณกล่าวว่า สถานการณ์ตลาดสิ้นปี 2567 พบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยที่ยังเสนอขายอยู่ในตลาด 3,028 โครงการ รวม 837,090 ยูนิต มูลค่ากว่า 3.85 ล้านล้านบาท ยังพบว่ามีโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอยู่เกินกว่า 20 ยูนิต/โครงการ ถึง 2,690 โครงการ และต่อเนื่องมาถึงปี 2568 ขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงจาก 462 โครงการปี 2566 เหลือ 375 โครงการปี 2567 หรือลดลง 19% ในแง่มูลค่าการพัฒนาลดลงจาก 559,743 ล้านบาท ปี 2566 เหลือ 413,773 ล้านบาท ปี 2567 หรือลดลง 26% ส่วนในแง่จำนวนหน่วยลดลงจาก 101,536 หน่วยปี 2566 เหลือ 61,453 หน่วยปี 2567 หรือลดลง 39% การที่จำนวนหน่วยลดลงมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับมูลค่าที่ลดลงไม่มาก เพราะการเปิดตัวโครงการใหม่ เน้นสินค้าราคาแพงมากขึ้น เนื่องจากสินค้าราคาถูกขายได้ยากกว่าสินค้าราคาแพงกว่า
"ปี 2567 มีการเปิดใหม่ 413,773 ล้านบาท พบว่า มีมูลค่าขายได้ 324,915 ล้านบาท ทั้งเปิดใหม่และสินค้าที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ เท่ากับขยายได้ 79% หน่วยเหลือขาย 234,478 ยูนิต จะถูกส่งต่อมาถึงปีนี้ พบว่าเป็น ห้องชุดมากสุด 78,604 หน่วย หรือ 33.5% อยู่ช่วงราคา 2-3 ล้านบาท รองลงมาทาวน์เฮาส์ 76,151 หน่วย หรือ 32.5% ช่วงราคา 2-3 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 50,835 หน่วย หรือ 21.7% ช่วงราคา 5-10 ล้านบาท บ้านแฝด 25,677 หน่วย หรือ 11% ช่วงราคา 3-5 ล้านบาท นอกนั้นเป็นตึกแถวและที่ดินจัดสรรซึ่งมีเป็นส่วนน้อยมาก" นายโสภณกล่าว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯปี 2568 ยังไม่ปกติ เชื่อว่าปีนี้น่าจะยังคงเป็นเกมของการลดราคา เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ต้องนำเงินไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ ในส่วนของอนันดาปี 2568 ยังเน้นขายสต๊อกเดิม เนื่องจากยังมีแบ๊กล็อกทั้งโครงการเก่าและใหม่อีกกว่า 31,000 ล้านบาท ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่รอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดที่ ค่อนข้างเปลี่ยนเร็วมาก โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% จาก ปีก่อนมียอดโอน 12,000 ล้านบาท ซึ่งมีแบ๊กล็อกโอนปีนี้ที่ 9,400 ล้านบาทแล้ว จึงลดความกดดันปีนี้ไปได้
แห่เปิดโครงการใหม่6.7หมื่นยูนิต
ส่องตลาดที่อยู่อาศัย กทม. ปริมณฑล ปี'68 ลุ้นฟื้นตัว 10% ผ่านจุดต่ำสุดปี'67 โชว์เปิดตัวใหม่ 381 โครงการ กว่า 6.7 หมื่นยูนิต มูลค่าพุ่ง 4.7 แสนล้าน สวนสต๊อกเหลือ 2.39 แสนยูนิต มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท ปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าโอน-จำนองต่อ 'อนันดา'เน้นระบายของเก่า กำเงินสด
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า คาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2568 ฟื้นตัวขึ้นจากปี 2567 ประมาณ 10% ยังต่ำกว่าที่เคยมีการขายนับแสนหน่วยในช่วงก่อน หากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ตลาดที่อยู่อาศัยไทยอาจฟ้นตัวได้มากกว่านี้ เนื่องจากยังมีปัจจัยลบกระทบต่อกำลังซื้อ อาทิ มาตรการ LTV หนี้ครัวเรือน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภคหันมาเลือกเช่าแทนซื้อ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ยังไม่ประกาศต่ออายุ เป็นต้น
"ปี 2568 คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ 381 โครงการ หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน จำนวน 67,598 ยูนิต หรือเพิ่ม 10% มูลค่า 475,839 ล้านบาท เพิ่ม 15% ราคาเฉลี่ย 7.039 ล้านบาท เพิ่ม 4.5% แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 17,163 ยูนิต เพิ่ม 10% บ้านแฝด 5,604 ยูนิต เพิ่ม 5% ทาวน์เฮาส์ 14,238 ยูนิต เพิ่ม 15% ห้องชุด 30,724 ยูนิต เพิ่ม 10% ขณะที่หน่วยเหลือขายอยู่ที่ 239,168 ยูนิต เพิ่ม 2% มูลค่ากว่า 1.34 ล้านล้านบาท เพิ่ม 5%" นายโสภณกล่าว
นายโสภณกล่าวว่า สถานการณ์ตลาดสิ้นปี 2567 พบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยที่ยังเสนอขายอยู่ในตลาด 3,028 โครงการ รวม 837,090 ยูนิต มูลค่ากว่า 3.85 ล้านล้านบาท ยังพบว่ามีโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอยู่เกินกว่า 20 ยูนิต/โครงการ ถึง 2,690 โครงการ และต่อเนื่องมาถึงปี 2568 ขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงจาก 462 โครงการปี 2566 เหลือ 375 โครงการปี 2567 หรือลดลง 19% ในแง่มูลค่าการพัฒนาลดลงจาก 559,743 ล้านบาท ปี 2566 เหลือ 413,773 ล้านบาท ปี 2567 หรือลดลง 26% ส่วนในแง่จำนวนหน่วยลดลงจาก 101,536 หน่วยปี 2566 เหลือ 61,453 หน่วยปี 2567 หรือลดลง 39% การที่จำนวนหน่วยลดลงมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับมูลค่าที่ลดลงไม่มาก เพราะการเปิดตัวโครงการใหม่ เน้นสินค้าราคาแพงมากขึ้น เนื่องจากสินค้าราคาถูกขายได้ยากกว่าสินค้าราคาแพงกว่า
"ปี 2567 มีการเปิดใหม่ 413,773 ล้านบาท พบว่า มีมูลค่าขายได้ 324,915 ล้านบาท ทั้งเปิดใหม่และสินค้าที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ เท่ากับขยายได้ 79% หน่วยเหลือขาย 234,478 ยูนิต จะถูกส่งต่อมาถึงปีนี้ พบว่าเป็น ห้องชุดมากสุด 78,604 หน่วย หรือ 33.5% อยู่ช่วงราคา 2-3 ล้านบาท รองลงมาทาวน์เฮาส์ 76,151 หน่วย หรือ 32.5% ช่วงราคา 2-3 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 50,835 หน่วย หรือ 21.7% ช่วงราคา 5-10 ล้านบาท บ้านแฝด 25,677 หน่วย หรือ 11% ช่วงราคา 3-5 ล้านบาท นอกนั้นเป็นตึกแถวและที่ดินจัดสรรซึ่งมีเป็นส่วนน้อยมาก" นายโสภณกล่าว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯปี 2568 ยังไม่ปกติ เชื่อว่าปีนี้น่าจะยังคงเป็นเกมของการลดราคา เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ต้องนำเงินไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ ในส่วนของอนันดาปี 2568 ยังเน้นขายสต๊อกเดิม เนื่องจากยังมีแบ๊กล็อกทั้งโครงการเก่าและใหม่อีกกว่า 31,000 ล้านบาท ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่รอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดที่ ค่อนข้างเปลี่ยนเร็วมาก โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% จาก ปีก่อนมียอดโอน 12,000 ล้านบาท ซึ่งมีแบ๊กล็อกโอนปีนี้ที่ 9,400 ล้านบาทแล้ว จึงลดความกดดันปีนี้ไปได้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ