กูรูชี้ราคาอสังหาฯขึ้น2-3%
วันที่ : 7 มกราคม 2568
พร็อพ เพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ฯ กล่าวว่า ในปี 68 คาดว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวขึ้นอีก 5-7% จากปี 67 ที่ปรับขึ้นประมาณ 3% แต่มองว่าผู้ประกอบการอาจยังขายในราคาเดิมหรือในราคาที่อยู่บนต้นทุนเดิมเพื่อสร้างความน่าสนใจ และให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 68 มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย และคาดว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับขึ้นได้เพียง 2-3% เท่านั้น แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับราคาที่ดินในแต่ละทำเลด้วย และการปรับขึ้นราคาเพียงเล็กน้อยเพราะเชื่อว่าผู้ประกอบการจะขายในราคาเดิมเพื่อระบายสต๊อกเก่าก่อน อีกทั้งราคาวัสดุก่อสร้างยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพ เพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 68 คาดว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวขึ้นอีก 5-7% จากปี 67 ที่ปรับขึ้นประมาณ 3% แต่มองว่าผู้ประกอบการอาจยังขายในราคาเดิมหรือในราคาที่อยู่บนต้นทุนเดิมเพื่อสร้างความน่าสนใจ และให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมไปถึงปัจจัยลบในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และส่วนอื่น ๆ ของโลกยังมีทิศทางที่จะสร้างผลกระทบในเชิงลบให้กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากการฟื้นตัวของท่องเที่ยว แรงกดดันจากนโยบายใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่มีโอกาสทำให้การลงทุนจากต่างประเทศรวมไปถึงการเข้ามาของชาวต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยปี 68 นี้ฟื้นตัวดีขึ้น แม้จะไม่ชัดเจน เพราะยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้น หากการขยายตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นรวมไปถึงนโยบายการปรับหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลได้ผล สัดส่วนของหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยจะลดลง ช่วยลดแรงกดดันในการพิจารณาสินเชื่อธนาคารได้มากขึ้นด้วย
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาฯ ปี68 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากดอกเบี้ยเริ่มลดลง และค่าก่อสร้างยังไม่ปรับขึ้นจากราคาน้ามันที่ยังคงที่ทำให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ยังไม่ปรับขึ้นจึงเป็นโอกาสของผู้บริโภค แม้ถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง และความสามารถในการซื้อลดลงหากดอกเบี้ยลดลงจะช่วยได้
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพ เพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 68 คาดว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวขึ้นอีก 5-7% จากปี 67 ที่ปรับขึ้นประมาณ 3% แต่มองว่าผู้ประกอบการอาจยังขายในราคาเดิมหรือในราคาที่อยู่บนต้นทุนเดิมเพื่อสร้างความน่าสนใจ และให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมไปถึงปัจจัยลบในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และส่วนอื่น ๆ ของโลกยังมีทิศทางที่จะสร้างผลกระทบในเชิงลบให้กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากการฟื้นตัวของท่องเที่ยว แรงกดดันจากนโยบายใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่มีโอกาสทำให้การลงทุนจากต่างประเทศรวมไปถึงการเข้ามาของชาวต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยปี 68 นี้ฟื้นตัวดีขึ้น แม้จะไม่ชัดเจน เพราะยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้น หากการขยายตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นรวมไปถึงนโยบายการปรับหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลได้ผล สัดส่วนของหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยจะลดลง ช่วยลดแรงกดดันในการพิจารณาสินเชื่อธนาคารได้มากขึ้นด้วย
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาฯ ปี68 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากดอกเบี้ยเริ่มลดลง และค่าก่อสร้างยังไม่ปรับขึ้นจากราคาน้ามันที่ยังคงที่ทำให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ยังไม่ปรับขึ้นจึงเป็นโอกาสของผู้บริโภค แม้ถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง และความสามารถในการซื้อลดลงหากดอกเบี้ยลดลงจะช่วยได้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ