อสังหาฯ ปี'68 เหนื่อยต่อ สต๊อกทะลัก 1.3 ล้านล้าน เปิด 10 ทำเลอันตราย บ้าน-คอนโด 'ขายไม่ออก'
Loading

อสังหาฯ ปี'68 เหนื่อยต่อ สต๊อกทะลัก 1.3 ล้านล้าน เปิด 10 ทำเลอันตราย บ้าน-คอนโด 'ขายไม่ออก'

วันที่ : 29 ธันวาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิด 10 ทำเลอันตรายบ้าน-คอนโด ระบุต้องระมัดระวัง ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เนื่องจากยังคงมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้นๆ แม้ว่าบางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดีก็ตาม
   อสังหาฯ ปี'68 เหนื่อยต่อ สต๊อกทะลัก 1.3 ล้านล้าน เปิด 10 ทำเลอันตราย บ้าน-คอนโด 'ขายไม่ออก'

   สำรวจสถานการณ์ที่อยู่อาศัยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2567 สะท้อนจากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567

   สต๊อกเหลือขายกว่า 1.3 ล้านล้าน

   พบว่ามีที่อยู่อาศัยที่เสนอขายรวม 229,182 หน่วย เพิ่มขึ้น 7% และมูลค่า 1,394,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    โดยในจำนวนนี้ มีหน่วยเหลือขายสูงถึง 215,800 หน่วย เพิ่มขึ้น 10.2% มูลค่า 1,313,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทุกระดับราคา คาดใช้เวลาในการขาย 49 เดือน

     อย่างไรก็ตามจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ที่มีการขยายเพดานราคาบ้านมือหนึ่งและมือสองเป็นไม่เกิน 7 ล้านบาท พบว่าทำให้กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 7.50 ล้านบาท ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม มีทิศทางลดลง

     เปิด 10 ทำเลอันตรายบ้าน-คอนโด

    สำหรับทำเลที่ REIC ระบุต้องระมัดระวัง ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เนื่องจากยังคงมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้นๆ แม้ว่าบางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดีก็ตาม

    ในส่วนของบ้านจัดสรร มี 5 ทำเล ประกอบด้วย

    อันดับ 1 โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย จำนวน 20,686 หน่วย มูลค่า 114,376 ล้านบาท

    อันดับ 2 โซนลำลูกกา-ธัญบุรี จำนวน 15,551 หน่วย มูลค่า 91,184 ล้านบาท

    อันดับ 3 โซนคลองหลวง จำนวน 14,457 หน่วย มูลค่า 57,650 ล้านบาท

    อันดับ 4 โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง จำนวน 12,181 หน่วย มูลค่า 81,531 ล้านบาท

    อันดับ 5 โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก จำนวน 11,367 หน่วย มูลค่า 53,705 ล้านบาท

    ส่วนสำหรับคอนโดมิเนียม มี 5 ทำเล ประกอบด้วย

    อันดับ 1 โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 9,846 หน่วย มูลค่า 39,988 ล้านบาท

    อันดับ 2 โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด จำนวน 9,314 หน่วย มูลค่า 29,809 ล้านบาท

   อันดับ 3 โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ จำนวน 8,280 หน่วย มูลค่า 27,391 ล้านบาท

    อันดับ 4 โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 6,580 หน่วยมูลค่า 17,887 ล้านบาท

   อันดับ 5 โซนลาดพร้าว-วังทองหลาง-บางกะปิ จำนวน 5,197 มูลค่า 16,965 ล้านบาท

   เช็กลิสต์ "ระดับราคา" ขายไม่ออก

   นอกจากนี้ REIC ยังส่งสัญญาณถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ควรระมัดระวังในการเพิ่มอุปทานกลุ่มเหล่านี้เข้าไปในตลาด จนทำให้ความเร็วในการขายลดลง ได้แก่

   "อาคารชุด" กลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท ยังสต๊อก 9,265 หน่วย คิดเป็น 34.6% ของอาคารชุดที่สร้างเสร็จเหลือขาย 26,794 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท ยังมีสต๊อก 4,277 หน่วย คิดเป็น 16%

   "ทาวน์เฮาส์"กลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท มีสต๊อก 7,942 หน่วย คิดเป็น 48% ของทาวน์เฮาส์ที่สร้างเสร็จเหลือขาย 16,561 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 5,338 หน่วย คิดเป็น 32.2%

    "บ้านเดี่ยว"กลุ่มราคา 5-7.50 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 2,559 หน่วย คิดเป็น 32.7% ของบ้านเดี่ยวที่สร้างเสร็จเหลือขาย 7,815 หน่วย และราคา 10-20 ล้านบาท มีสต๊อก 1,620 หน่วย คิดเป็น 20.7%

    "บ้านแฝด" กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 2,418 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 50.8% ของบ้านแฝดที่สร้างเสร็จเหลือขาย 4,760 หน่วย และราคา 5-7.50 ล้านบาท ยังมีสต๊อก 1,472 หน่วย คิดเป็น 30.9%
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ