บิ๊กเนมมอง...อสังหาปี68 ฟื้นตัวไม่หวือหวา
วันที่ : 26 ธันวาคม 2567
บิ๊กเนมคาดการณ์ปี68 สัญญาณฟื้นตัวไม่หวือหวา ตัวแปรเบิกจ่ายงบประมาณรัฐมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนดอกเบี้ยลด หลังปี67 ฝ่าวิกฤตปัจจัยลบทั้งดอกเบี้ยสูง นโยบายสินเชื่อที่เข้มงวด หนี้ครัวเรือนที่พุ่ง
แรงหนุน ท่องเที่ยว-เบิกจ่าย-มาตรการรัฐ
ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง อีกทั้ง ความเข้มงวดในงานปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ภัยธรรมชาติ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ แม้ตลาดในบางส่วนจะมีการฟื้นตัวในช่วงไตรมาสสุดท้าย แต่ภาพรวมยังคงเผชิญแรงกดดันสำคัญ ทำให้เป็นปีที่ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด "ฐานเศรษฐกิจ" ได้พูดคุยกับผู้พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์รายใหญ่หลายราย ถึงความคิดเห็นและมุมมองของที่มีต่อแนวโน้มตลาดในปี 2568 ที่กำลังจะมาถึง
เริ่มจาก นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวโน้มในปี 2568 ว่าตลาดอสังหาฯ จะเริ่มฟื้นตัว โดยยอดขายอาจเพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 2567 แต่ยังต่ำกว่าปีก่อนหน้า และยังเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะดีมานด์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่ดีมานด์ต่างชาติยังคงเข้ามาประคับประคองตลาด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ
ขณะที่ นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามองในแง่บวก คิดว่ามีโอกาสดี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับลดลงในอนาคต อีกทั้งซัพพลายในตลาดที่หายไป ต้นทุนค่าก่อสร้างยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เพราะราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังคงทรงตัว
อย่างไรก็ตามภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยที่กดดันกำลังซื้อของประชาชน หากอัตราดอกเบี้ยลดลงจริง ก็อาจช่วยบรรเทาภาระในส่วนนี้ได้ นอกจากนี้หากรัฐบาลมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชน จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ
ด้าน นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) สะท้อนยังภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า สถานการณ์จะดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ เกิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งดอกเบี้ยที่แนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง จะทำให้หนี้คนที่มีจะผ่อนค่างวดสบายขึ้น หนี้ครัวเรือนที่มีอยู่มากอาจผ่อนคลายลง เพราะดอกเบี้ยน้อยลง ธนาคารลดต้นทุน เพิ่มวงเงินสำหรับกู้ซื้อบ้านง่ายขึ้น เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้เผยมุมมองที่ต่างออกไปว่า ปี 2568 คาดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดดูมีเสถียรภาพแม้จะชะลอตัว คืออุปทาน (Supply) ที่ลดลงอย่างมาก การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการลดลงของอุปทานขณะที่ยังมีอุปสงค์จากฝั่งผู้บริโภคจะช่วยสร้างสมดุลให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อช่วงที่มีความต้องการลดลง
ปิดท้ายด้วย นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มอสังหาฯ ปีหน้าว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของ GDP ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเติบโตได้ถึง 3% หรือมากกว่านั้น โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาความสามารถในภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
ปัจจัยสำคัญที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์คือปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งนี้ผู้ประกอบการเห็นพ้องกันว่าปี 2568 ตลาดจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คาดว่าจะยังไม่ใช่ปีที่ง่ายสำหรับผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามโอกาสจะเป็นของผู้เตรียมพร้อมปรับตัวขณะที่ปัจจัยจากภาครัฐ เช่น การลดดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยพลิกเกมตลาดในปีหน้า
ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง อีกทั้ง ความเข้มงวดในงานปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ภัยธรรมชาติ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ แม้ตลาดในบางส่วนจะมีการฟื้นตัวในช่วงไตรมาสสุดท้าย แต่ภาพรวมยังคงเผชิญแรงกดดันสำคัญ ทำให้เป็นปีที่ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด "ฐานเศรษฐกิจ" ได้พูดคุยกับผู้พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์รายใหญ่หลายราย ถึงความคิดเห็นและมุมมองของที่มีต่อแนวโน้มตลาดในปี 2568 ที่กำลังจะมาถึง
เริ่มจาก นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวโน้มในปี 2568 ว่าตลาดอสังหาฯ จะเริ่มฟื้นตัว โดยยอดขายอาจเพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 2567 แต่ยังต่ำกว่าปีก่อนหน้า และยังเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะดีมานด์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่ดีมานด์ต่างชาติยังคงเข้ามาประคับประคองตลาด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ
ขณะที่ นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามองในแง่บวก คิดว่ามีโอกาสดี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับลดลงในอนาคต อีกทั้งซัพพลายในตลาดที่หายไป ต้นทุนค่าก่อสร้างยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เพราะราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังคงทรงตัว
อย่างไรก็ตามภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยที่กดดันกำลังซื้อของประชาชน หากอัตราดอกเบี้ยลดลงจริง ก็อาจช่วยบรรเทาภาระในส่วนนี้ได้ นอกจากนี้หากรัฐบาลมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชน จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ
ด้าน นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) สะท้อนยังภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า สถานการณ์จะดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ เกิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งดอกเบี้ยที่แนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง จะทำให้หนี้คนที่มีจะผ่อนค่างวดสบายขึ้น หนี้ครัวเรือนที่มีอยู่มากอาจผ่อนคลายลง เพราะดอกเบี้ยน้อยลง ธนาคารลดต้นทุน เพิ่มวงเงินสำหรับกู้ซื้อบ้านง่ายขึ้น เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้เผยมุมมองที่ต่างออกไปว่า ปี 2568 คาดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดดูมีเสถียรภาพแม้จะชะลอตัว คืออุปทาน (Supply) ที่ลดลงอย่างมาก การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการลดลงของอุปทานขณะที่ยังมีอุปสงค์จากฝั่งผู้บริโภคจะช่วยสร้างสมดุลให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อช่วงที่มีความต้องการลดลง
ปิดท้ายด้วย นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มอสังหาฯ ปีหน้าว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของ GDP ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเติบโตได้ถึง 3% หรือมากกว่านั้น โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาความสามารถในภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
ปัจจัยสำคัญที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์คือปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งนี้ผู้ประกอบการเห็นพ้องกันว่าปี 2568 ตลาดจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คาดว่าจะยังไม่ใช่ปีที่ง่ายสำหรับผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามโอกาสจะเป็นของผู้เตรียมพร้อมปรับตัวขณะที่ปัจจัยจากภาครัฐ เช่น การลดดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยพลิกเกมตลาดในปีหน้า
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ