เศรษฐีไทย - ต่างชาติแห่ช้อปเพนต์เฮาส์
วันที่ : 14 พฤศจิกายน 2567
คอลลิเออร์ส สำรวจตลาดเพนต์เฮาส์เมืองไทย ราคาเกิน 100 ล้านอัพ เติบโตต่อเนื่อง เศรษฐีไทย-เทศแห่ซื้อ เทรนด์ชั้นละยูนิต ห้องขนาดใหญ่มาแรง ดีมานด์พุ่ง บางโครงการ ตั้งราคาขายกว่า 1 พันล้าน พื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน แม่น้ำเจ้าพระยาทำเล ยอดนิยม
เทรนด์ชั้นละยูนิตฮิตดันราคาพุ่งพันล้าน
ทำเลยอดนิยม 'กลางกรุง-ติดเจ้าพระยา'
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจพัฒนาโครงการที่มียูนิตขายน้อย บนทำเลที่มีศักยภาพและโดดเด่น มีความเป็นส่วนตัวสูง หรือบางโครงการใน 1 ชั้น มียูนิตขายเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น (One Floor One Unit) ซึ่งเป็นการเน้นพัฒนาเป็นเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่ โดยพบว่าบางโครงการพัฒนาห้องพักขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) อีกทั้งยังมีหลายโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมา บางโครงการมียูนิตขายทั้งโครงการไม่ถึง 30 ยูนิต และมีราคาขายต่อยูนิตสูงกว่า 100 ล้านบาท โดยเฉพาะเพนต์เฮาส์ในโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากของกำลังซื้อกลุ่มระดับบน และกำลังซื้อต่างชาติ ซึ่งจะเป็นยูนิตแรกๆ ที่ถูกขายออกไป และมีบางโครงการปิดการขายยูนิตเหล่านี้ออกไปตั้งแต่โครงการยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการและในบางโครงการถึงกับมีการเปิดประมูลยูนิต เพนต์เฮาส์ก็มี
นายภัทรชัยกล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าสิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ในกรุงเทพฯ มีห้องพักประเภทเพนต์เฮาส์ในโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 298 ยูนิต ด้วยมูลค่ารวม 17,880 ล้านบาท ขายไปแล้ว 160 ยูนิต คิดเป็น 53.69% ยังมียูนิตเหลือขายรอการระบายอีก 138 ยูนิต คิดเป็น 46.31% ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นพัฒนาเพนต์เฮาส์ หรือรูปแบบ One Floor One Unit ออกสู่ ตลาดอีกมากกว่า 200 ยูนิต และส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เช่น ชิดลม หลังสวน ลุมพินี สุขุมวิท และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
"หลายโครงการมีความน่าจับตามองเป็นอย่างมาก เช่น โครงการของแสนสิริ บนที่ดินทำเลสารสิน ที่อาจมียูนิตขายทั้งโครงการแค่ 11 ยูนิต และคาดการณ์ว่า ราคาขายต่อยูนิตอาจสูงกว่า 1 ล้านบาทต่อ ตร.ม. และการกลับมาเปิดขายอีกครั้งของโครงการนิมิต หลังสวน มียูนิตขายที่เหลืออยู่ ซึ่งคาดการณ์ว่า เพนต์เฮาส์ของโครงการดังกล่าว อาจมีการตั้งราคาขายใหม่ที่สูงขึ้นและอาจสูงถึง ตร.ม.ละ 1 ล้านบาทเช่นเดียวกัน" นายภัทรชัยกล่าว
นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับ 5 อันดับ ห้องเพนต์เฮาส์ที่มีราคาขายแพงที่สุดในกรุงเทพฯ อันดับ 1 โครงการปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก ราคาขาย อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 1 ล้านบาท อันดับที่ 2 โครงการ 98 ไวร์เลส ราคาขายอยู่ที่ 650 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 650,000 บาท อันดับ 3 โครงการเดอะ สุโขทัย เรสซิเดนซ์เซส ราคาขายอยู่ที่ 680 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 403,000 บาท อันดับ 4 โครงการแสนสิริ ลักชัวรี่คอลเล็กชั่นที่ชิดลม ราคาขายอยู่ที่ 500 ล้านบาท (ยังไม่เปิดขาย) และอันดับ 5 โครงการเดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ราคาขายอยู่ที่ 450 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม.อยู่ที่ 620,000 บาท
ทำเลยอดนิยม 'กลางกรุง-ติดเจ้าพระยา'
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจพัฒนาโครงการที่มียูนิตขายน้อย บนทำเลที่มีศักยภาพและโดดเด่น มีความเป็นส่วนตัวสูง หรือบางโครงการใน 1 ชั้น มียูนิตขายเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น (One Floor One Unit) ซึ่งเป็นการเน้นพัฒนาเป็นเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่ โดยพบว่าบางโครงการพัฒนาห้องพักขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) อีกทั้งยังมีหลายโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมา บางโครงการมียูนิตขายทั้งโครงการไม่ถึง 30 ยูนิต และมีราคาขายต่อยูนิตสูงกว่า 100 ล้านบาท โดยเฉพาะเพนต์เฮาส์ในโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากของกำลังซื้อกลุ่มระดับบน และกำลังซื้อต่างชาติ ซึ่งจะเป็นยูนิตแรกๆ ที่ถูกขายออกไป และมีบางโครงการปิดการขายยูนิตเหล่านี้ออกไปตั้งแต่โครงการยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการและในบางโครงการถึงกับมีการเปิดประมูลยูนิต เพนต์เฮาส์ก็มี
นายภัทรชัยกล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าสิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ในกรุงเทพฯ มีห้องพักประเภทเพนต์เฮาส์ในโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 298 ยูนิต ด้วยมูลค่ารวม 17,880 ล้านบาท ขายไปแล้ว 160 ยูนิต คิดเป็น 53.69% ยังมียูนิตเหลือขายรอการระบายอีก 138 ยูนิต คิดเป็น 46.31% ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นพัฒนาเพนต์เฮาส์ หรือรูปแบบ One Floor One Unit ออกสู่ ตลาดอีกมากกว่า 200 ยูนิต และส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เช่น ชิดลม หลังสวน ลุมพินี สุขุมวิท และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
"หลายโครงการมีความน่าจับตามองเป็นอย่างมาก เช่น โครงการของแสนสิริ บนที่ดินทำเลสารสิน ที่อาจมียูนิตขายทั้งโครงการแค่ 11 ยูนิต และคาดการณ์ว่า ราคาขายต่อยูนิตอาจสูงกว่า 1 ล้านบาทต่อ ตร.ม. และการกลับมาเปิดขายอีกครั้งของโครงการนิมิต หลังสวน มียูนิตขายที่เหลืออยู่ ซึ่งคาดการณ์ว่า เพนต์เฮาส์ของโครงการดังกล่าว อาจมีการตั้งราคาขายใหม่ที่สูงขึ้นและอาจสูงถึง ตร.ม.ละ 1 ล้านบาทเช่นเดียวกัน" นายภัทรชัยกล่าว
นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับ 5 อันดับ ห้องเพนต์เฮาส์ที่มีราคาขายแพงที่สุดในกรุงเทพฯ อันดับ 1 โครงการปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก ราคาขาย อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 1 ล้านบาท อันดับที่ 2 โครงการ 98 ไวร์เลส ราคาขายอยู่ที่ 650 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 650,000 บาท อันดับ 3 โครงการเดอะ สุโขทัย เรสซิเดนซ์เซส ราคาขายอยู่ที่ 680 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม. 403,000 บาท อันดับ 4 โครงการแสนสิริ ลักชัวรี่คอลเล็กชั่นที่ชิดลม ราคาขายอยู่ที่ 500 ล้านบาท (ยังไม่เปิดขาย) และอันดับ 5 โครงการเดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ราคาขายอยู่ที่ 450 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม.อยู่ที่ 620,000 บาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ