SPALIลั่นฐานการเงินแกร่ง Q4เดินหน้าเปิด10โครงการ
Loading

SPALIลั่นฐานการเงินแกร่ง Q4เดินหน้าเปิด10โครงการ

วันที่ : 14 พฤศจิกายน 2567
SPALI กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวม 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,730 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 โครงการแนวราบ และ 4 โครงการคอนโดมิเนียม
    
    SPALI เผยผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2567 ชูสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โกยรายได้รวม 22,792 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 4,201 ล้านบาท เดินหน้า โค้งสุดท้ายลุยตลาดอสังหาแนวราบ-คอนโดมิเนียม เต็มกำลัง เปิดเพิ่มอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่า 13,730 ล้านบาท ชูโปรดักต์ใหม่ในทุกทำเลทุกเซ็กเมนต์

    นายไตรเตชะ ตังมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 บริษัทสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ โดยกวาดรายได้รวมสูงถึง 22,792 ล้านบาท เพิมขึน 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และรายได้รวมของไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 9,985 ล้านบาท เพิมขึน 39% เม่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ซึ่งรายได้หลักสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 มาจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค โดยแบ่งเป็นรายได้ โครงการแนวราบ 64% และโครงการคอนโดมิเนียม 36% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และกระแสตอบรับที่ดีในกลุ่มสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

    อีกทั้งในช่วงไตรมาส 1-3 ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จาก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ได้แก่ ศุภาลัย ไอคอน สาทร, ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร, ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ, ซิตี้โฮม สนามบินน้ำรัตนาธิเบศร์ และซิตี้โฮม ระยอง นอกจากนี้บริษัทยังมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในมืออยู่อีก 28,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญสะท้อนถึงความต้องการของตลาด Real Demand ที่ถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญในการเติบโตทางรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่ง

    ตุนแบ็กล็อก 1.32 หมื่นล.

    ด้านกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เด่อน ปี 2567 เท่ากับ 4,201 ล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เด่อน ปี 2567 เท่ากับ 1,989 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 67% เม่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ขณะทีอัตรากำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เด่อน ปี 2567 สูงถึง 18.4% ของรายได้รวม

    โดยปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น ที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับตำที 51% โดยมียอดขายทีรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 13,216 ล้านบาท ณ วันที 30 กันยายน 2567 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็น รายได้ในปี 2567 จำนวน 7,925 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 5,291 ล้านบาท ในปี 2568 และ 2569 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต

    บริษัทยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ "A" จากทริสเรทติ้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจทีมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และผลประกอบการทีดี อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงรักษาภาระหนี้สินทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

    ลุยโค้งท้าย 10 โครงการ

    นอกไปจากนี้ บริษัทยังเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวม 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,730 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 โครงการแนวราบ และ 4 โครงการคอนโดมิเนียม โดยไฮไลต์ที่น่าสนใจคือการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 4 แบรนด์ ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บนทำเลศักยภาพ ได้แก่ ศุภาลัย ธาม เจริญนคร, ศุภาลัย บลู สาทร-ราชพฤกษ์, ศุภาลัย เซนส์ เขารัง ภูเก็ต และศุภาลัย คราม เขาเต่า และโครงการแนวราบระดับ ลักซ์ชัวรี ได้แก่ ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์, ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยาน, ศุภาลัย แกรนด์วิลล์ สุขุมวิท-บางนา ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายทีตังไว้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ