REIC คาดไตรมาส4โอกาสทองซื้อบ้านเหตุดัชนีราคาเพิ่ม
Loading

REIC คาดไตรมาส4โอกาสทองซื้อบ้านเหตุดัชนีราคาเพิ่ม

วันที่ : 7 พฤศจิกายน 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ส่งซิกไตรมาส 4/67 โอกาสทองการซื้อบ้าน หลังดัชนีราคาที่อยู่อาศัยปรับขึ้นทุกไตรมาส
   
   ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในมิติด้านราคาประจำไตรมาส 3/2567 จากการติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอขายที่อยู่อาศัย ทั้งประเภทโครงการบ้านจัดสรรใหม่ และห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย โดย REIC พบว่า ค่าดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว ขณะที่ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น เช่น ราคาที่ดิน การปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ รวมถึงราคาน้ำมัน ส่งผลให้โครงการที่อยู่อาศัยใหม่ที่เปิดขายในปี 2566-2567 มีราคาสูงขึ้น

   โดยเมื่อพิจารณาตามประเภทที่อยู่อาศัยพบว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในภาพรวมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 3/2567 ดัชนีมีค่าเท่ากับ 130.7 เพิ่มขึ้น 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.8 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 8 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 พบว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรลดลง 0.7% ซึ่งดัชนีลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยบ้านจัดสรรในปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และ สมุทรปราการ) มีแนวโน้มราคาลดลงมากกว่าบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ

    สำหรับความเคลื่อนไหวด้านดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 3/2567 พบว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 159.2 เพิ่มขึ้น 2.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.5% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสังเกตได้ว่าดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 ไตรมาส จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากในพื้นที่ 2 จังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ และ นนทบุรี) โดยเพิ่มขึ้น 4.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

   ดังนั้น ผู้ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านจัดสรร และห้องชุด ควรตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาส 4/2567 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ราคาที่อยู่อาศัยจะขายในราคาต้นทุนเดิม ขณะเดียวกัน ผู้ที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยภายในปีนี้ยังจะได้รับสิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีโอกาสเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธอส. ที่รองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอีกด้วย