สัญญาณปี68อสังหาฯ แห่ปรับราคา
REIC ชี้ไตรมาส4นาทีทองซื้อของถูก
'บ้าน-คอนโด' ลุ้นแบงก์อนุมัติกู้6พันล.
โอกาสทอง ด้าน 3 สมาคมอสังหาฯปลื้มมหกรรมบ้านโกยยอด 4 วัน ทะลุ 6 พันล้าน สูงสุดรอบ 6 ปี ลุ้นฝ่าด่านแบงก์ปล่อยกู้
รายงานข่าวจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีราคาบ้านจัดสรรและห้องชุดใหม่อยู่ระหว่างขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่าค่าดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ปรับเพิ่มขึ้นชะลอตัว ขณะที่ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากต้นทุนที่สูงขึ้น เช่น ราคาที่ดิน ค่าแรงงาน ราคาน้ำมัน ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยที่เปิดขายปี 2566-2567 มีราคาสูงขึ้นตามต้นทุน สะท้อนแนวโน้มราคาบ้านจัดสรรและห้องชุดปี 2568 จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นช่วงที่เหลือของปี 2567 จึงเป็นโอกาสทองคนซื้อบ้าน เพราะยังมีที่อยู่อาศัยราคาต้นทุนเดิมให้เลือกซื้อ ยังได้สิทธิมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก ธอส.อีกด้วย
เมื่อพิจารณาตามประเภทที่อยู่อาศัยพบดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่กรุงเทพฯเพิ่มขึ้น ขณะที่นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการค่าดัชนีลดลง ผลจากการมีบ้านจัดสรรสร้างเสร็จเหลือขายในครึ่งแรกปี 2567 จำนวน 25,500 หน่วย โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ ราคา 2-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว ราคา 5-7.5 ล้านบาท ที่เหลือขายสูงสุด ส่งผลให้เกิดปรับลดราคาขายลงเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ ส่วนราคาห้องชุดใหม่มีค่าดัชนีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 ไตรมาส และเพิ่มขึ้นอย่างมากในสมุทรปราการและนนทบุรี เป็นผลจากต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้นและมีความต้องการในบางพื้นที่ ส่งผลให้บางทำเลดัชนีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นมากสุดโซนห้วยขวาง จตุจักร ดินแดง ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนสมุทรปราการและนนทบุรีเพิ่มขึ้นมากสุดโซนเมืองสมุทรปราการ พระประแดง พระสมุทรเจดีย์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ยังพบว่าครึ่งแรกปี 2567 มีสร้างเสร็จเหลือขาย 22,557 หน่วย มากสุดราคา 2-3 ล้านบาท ทำให้เกิดการแข่งขันการตลาดดึงดูดผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังพบว่าดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้าน ทั้งงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบเพิ่มขึ้น 3.9% ค่าแรงงานเพิ่มขึ้น 5.1% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการปรับราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ดังนั้นแนวโน้มราคาบ้านจัดสรรและห้องชุดจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากนี้เป็นต้นไป
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 จัดโดย 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย สามารถสร้างยอดขายภายในงาน 4 วัน รวม 6,000 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ปี ก่อนมีโควิด สะท้อนตลาดยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดที่ได้รับความสนใจถึง 60% และเป็นการซื้อเพื่อลงทุนเป็นหลัก ขณะที่ผู้ประกอบการได้แข่งขันจัดโปรโมชั่น กันมากกว่าทุกปี รวมถึงมาตรการรัฐจะหมดสิ้นปีนี้ และดอกเบี้ยที่ลดลง จึงเกิดแรงกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น แต่ยังต้องฝ่าด่านธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้หรือไม่ โดยคาดหวังว่าวงเงินสินเชื่อ 5.5 หมื่นล้านบาทของ ธอส.ที่จะขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะออกมาทันรองรับกับยอดขายงานมหกรรมบ้านและเกิดยอดโอนภายในสิ้นปีนี้