A5 ดอกเบี้ยลดอสังหาคืนชีพโชว์โค้งท้ายจ่อบุ๊กรายได้อื้อ
Loading

A5 ดอกเบี้ยลดอสังหาคืนชีพโชว์โค้งท้ายจ่อบุ๊กรายได้อื้อ

วันที่ : 17 ตุลาคม 2567
A5 เปิดเผยว่า "ดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงถือเป็นการกระตุ้น ภาคอสังหาให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลต่อกำลังซื้อและมูดดีขึ้น แต่อยากให้แบงก์พาณิชย์ลดลงมากกว่า สัก 2 ดิจิต สัก 0.50% และให้มีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อลง ทำให้ยอดรีเจ็กต์ลดลง ซึ่งจะทำให้มีดีมานด์เข้ามาได้อีกเยอะ"
    
      "ศุภโชค ปัญจทรัพย์" บอสใหญ่ A5 ชี้ กนง. หั่นดอกเบี้ยลงกระตุ้นภาคอสังหากลับมาคึกคัก ส่งผลดีต่อกำลังซื้อ พร้อมวอนแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยลง 0.50% พร้อมผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อบ้าน หนุนดีมานด์ไหลเข้าเพียบ ฉายภาพรวมอสังหาปลายปี กลับมาดีขึ้น ยอดชมโครงการพุ่งพรวด จ่อบุ๊กรายได้ปลายปีอื้อ

     นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%ต่อปี จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อกำลังซื้อ และความรู้สึกของผู้บริโภค ที่อยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ซึ่งอยากจะให้ธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงมากกว่า กนง. ที่ 0.50% เพราะที่ผ่านมามีช่องว่างของดอกเบี้ยมากกว่าหลายเท่า

    กระตุ้นอสังหา

    "ดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงถือเป็นการกระตุ้น ภาคอสังหาให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลต่อกำลังซื้อและมูดดีขึ้น แต่อยากให้แบงก์พาณิชย์ลดลงมากกว่า สัก 2 ดิจิต สัก 0.50% และให้มีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อลง ทำให้ยอดรีเจ็กต์ลดลง ซึ่งจะทำให้มีดีมานด์เข้ามาได้อีกเยอะ" นายศุภโชค กล่าว

    อย่างไรก็ตามภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงปลายปี เริ่มกลับมาดีขึ้น ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท เริ่มทยอยรับรู้ ตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าตลาดบ้านลักซ์ชัวรีที่บริษัทมุ่งเน้นยังคงมีศักยภาพในการเติบโต และเป็นไปตามเป้าตามที่วางไว้
    
    ขณะที่ในไตรมาส 3/2567 มียอดเข้าชมโครงการ (Walk In) เข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการจองของลูกค้าก็มากขึ้นเช่นกัน แต่ตลาดกลางถึงตลาดล่างยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งปัญหาหลักคือการยื่นกู้กับธนาคาร ถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญ

    อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 4 นี้ รวมถึงมีการวางแผนเปิดอีก 3 โครงการในปี 2568 โดยในช่วงนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับสูง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์

    โครงการใหม่

    สำหรับการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4 ได้แก่ "โครงการบ้านหรู วนา ราชพฤกษ์ เวสต์วิลล์" และ "โครงการแซงค์รอยัล เมกาบางนา" โดยโครงการ เหล่านี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ด้วยทำเล ที่ตั้งที่โดดเด่นและเข้าถึงง่าย ทำให้บริษัทมั่นใจว่าการเปิดโครงการใหม่จะช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต

    ส่วนแผนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทในปีนี้และปีหน้า บริษัทมีการวางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ โดยจะเน้นไปที่บ้านระดับ Super Luxury ซึ่งตั้งอยู่ในโซนตะวันออก โครงการใหม่เหล่านี้มุ่งหวังที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มที่มีความสามารถในการซื้อสูง

    สำหรับในไตรมาส 4 งานก่อสร้างของบริษัทจะเสร็จสิ้นตามแผน ซึ่งคาดว่าจะมียอดรับรู้ รายได้ที่สูง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่มักจะมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในช่วงปลายปี และต้นปีเป็นช่วงที่การก่อสร้างจะเสร็จสิ้นทำให้บริษัทมั่นใจว่าสถานการณ์ตลาดจะกลับมาคึกคัก และสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

    อนึ่ง ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2567 มีรายได้ รวม 920.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 668.28 ล้านบาท จำนวน 252 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.71% และมีกำไรสุทธิ 310.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 169.47 ล้านบาท จำนวน 140.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 82.98%