แห่ขายบ้านมือสองรวมมูลค่ากว่า 7.18 แสนล้าน
วันที่ : 10 กันยายน 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ด้านมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่าที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ( 54.3%) รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (11.5%) และระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท (2.2%)
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยประกาศขาย 140,725 หน่วย และมีมูลค่า 718,436 ล้านบาท เมื่อพิจารณาประเภทพบว่าประเภทของที่อยู่อาศัยที่มีการประกาศขาย มากที่สุดใน 3 ประเภทแรก ได้แก่ (1) บ้านเดี่ยว 55,754 หน่วย คิดเป็น 39.6% และมีมูลค่า 373,917 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 52.0% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด (2) ทาวน์เฮ้าส์ 41,384 หน่วย คิดเป็น 29.4% มูลค่า 105,191 ล้านบาท คิดเป็น 14.6% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด(3) ห้องชุด 35,963 หน่วย คิดเป็น 25.6% มูลค่า 201,887 ล้านบาท คิดเป็น 28.1% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมดสำหรับอาคารพาณิชย์ และบ้านแฝด เป็นประเภทที่มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าประกาศขายน้อยที่สุด อาคารพาณิชย์มีเพียง 5,326 คิดเป็น 3.8% มีมูลค่า 30,635 ล้านบาท เป็น 4.3% ขณะที่บ้านแฝดมีเพียง 2,298 คิดเป็น 1.6% มีมูลค่า 6,805 คิดเป็น 0.9%
2) ราคาขาย พบว่า ระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่มีหน่วยประกาศขายมากที่สุดใน 3 ระดับราคาแรก ได้แก่ (1) ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มีมากที่สุด 29,715 หน่วย คิดเป็น 21.1% แต่มีมูลค่ารวม 16,152 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนน้อยที่สุดเพียง 2.2% ของ ที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด (2) ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มี 22,905 หน่วย คิดเป็น 16.3% และมีมูลค่า 57,188 ล้านบาท คิดเป็น 8.0% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด
(3) ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มี 21,151 หน่วย คิดเป็น 15.0% และมีมูลค่า 82,960 ล้านบาท คิดเป็น 11.5% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมดโดยพบว่าระดับราคาที่มีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุด อยู่ในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มี 13,673 หน่วย แต่มีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 54.3% หรือมากกว่ามูลค่าในระดับราคาอื่นๆ รวมกัน เมื่อพิจารณาระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายแยกตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า บ้านเดี่ยวและห้องชุด มีหน่วยขายในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มากที่สุด ขณะที่บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์มีหน่วยขาย ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มากที่สุด และ ทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายมากที่สุด ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท
3) ทำเลที่ตั้ง จังหวัดที่มีอันดับมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขายสูงที่สุด 10 จังหวัดแรก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ระยอง และนครปฐม แสดงให้เห็นว่า อุปทานที่อยู่อาศัยมือสองยังคงมีการประกาศขาย มากที่สุดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ยกเว้นสมุทรสาครไม่ติดอันดับ) และมีจำนวนมากประกาศขายมากในพื้นที่จังหวัดสำคัญที่เป็นหัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยว
4) เปรียบเทียบระดับราคาที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มากที่สุด (21.1%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (16.3%) ขณะที่ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (4.0%) การโอนกรรมสิทธิ์ ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วย ที่โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดอยู่ในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท (34.7%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (18.8%) ขณะที่ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (0.9%) จะเห็นว่าจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองมีความสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายโดยเมื่อในตลาดมีจำนวนประกาศขายมากจะมีการโอนกรรมสิทธิ์มากตามไปด้วย
ด้านมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่าที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ( 54.3%) รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (11.5%) และระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท (2.2%) ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่ามากที่สุดในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (22.9%) รองลงมา คือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (17.8%) และระดับราคาที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์น้อยที่สุด คือระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท (3.8%)
2) ราคาขาย พบว่า ระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่มีหน่วยประกาศขายมากที่สุดใน 3 ระดับราคาแรก ได้แก่ (1) ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มีมากที่สุด 29,715 หน่วย คิดเป็น 21.1% แต่มีมูลค่ารวม 16,152 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนน้อยที่สุดเพียง 2.2% ของ ที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด (2) ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มี 22,905 หน่วย คิดเป็น 16.3% และมีมูลค่า 57,188 ล้านบาท คิดเป็น 8.0% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด
(3) ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มี 21,151 หน่วย คิดเป็น 15.0% และมีมูลค่า 82,960 ล้านบาท คิดเป็น 11.5% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมดโดยพบว่าระดับราคาที่มีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุด อยู่ในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มี 13,673 หน่วย แต่มีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 54.3% หรือมากกว่ามูลค่าในระดับราคาอื่นๆ รวมกัน เมื่อพิจารณาระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายแยกตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า บ้านเดี่ยวและห้องชุด มีหน่วยขายในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มากที่สุด ขณะที่บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์มีหน่วยขาย ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มากที่สุด และ ทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายมากที่สุด ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท
3) ทำเลที่ตั้ง จังหวัดที่มีอันดับมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขายสูงที่สุด 10 จังหวัดแรก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ระยอง และนครปฐม แสดงให้เห็นว่า อุปทานที่อยู่อาศัยมือสองยังคงมีการประกาศขาย มากที่สุดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ยกเว้นสมุทรสาครไม่ติดอันดับ) และมีจำนวนมากประกาศขายมากในพื้นที่จังหวัดสำคัญที่เป็นหัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยว
4) เปรียบเทียบระดับราคาที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มากที่สุด (21.1%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (16.3%) ขณะที่ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (4.0%) การโอนกรรมสิทธิ์ ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วย ที่โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดอยู่ในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท (34.7%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (18.8%) ขณะที่ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (0.9%) จะเห็นว่าจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองมีความสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายโดยเมื่อในตลาดมีจำนวนประกาศขายมากจะมีการโอนกรรมสิทธิ์มากตามไปด้วย
ด้านมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่าที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ( 54.3%) รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (11.5%) และระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท (2.2%) ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่ามากที่สุดในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (22.9%) รองลงมา คือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (17.8%) และระดับราคาที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์น้อยที่สุด คือระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท (3.8%)
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ