บิ๊กอสังหาฯจี้ธปท.ลดดอกเบี้ย
Loading

บิ๊กอสังหาฯจี้ธปท.ลดดอกเบี้ย

วันที่ : 14 สิงหาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ปัญหาแท้จริงของเศรษฐกิจไทยและอสังหาริมทรัพย์ คือ หนี้ครัวเรือนอยู่ระดับสูงมาก กระทบกำลังซื้อ เพราะต้องนำรายได้ไปใช้หนี้ ไม่ใช่บริโภคใหม่ หรือไม่มีการออมซื้ออสังหาฯ
   ฝ่าวิกฤตลองโควิด-พยุงธุรกิจ

   แห่งัดแผนฉุกเฉิน'ดองต้นทุน'

   ภาคอสังหาฯถอนรหัส เอฟเฟ็กต์ ลดดอกเบี้ย ดีต่อธุรกิจ ชี้ปี'67 เศรษฐกิจวิกฤตแบบลองโควิด แรงกว่าต้มยำกุ้ง ชลบุรีทรุดหนัก ทุกค่ายพลิกตัวสู้

    นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวในงานสัมมนา "ดอกเบี้ยลด ช่วยฟ้นเศรษฐกิจ อสังหาฯ ตลาดทุน" ว่า ปัญหาแท้จริงของเศรษฐกิจไทยและอสังหาริมทรัพย์ คือ หนี้ครัวเรือนอยู่ระดับสูงมาก กระทบกำลังซื้อ เพราะต้องนำรายได้ไปใช้หนี้ ไม่ใช่บริโภคใหม่ หรือไม่มีการออมซื้ออสังหาฯ และสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อตามความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของผู้กู้ ด้านผู้กู้ไม่มีการออม ต้องการสินเชื่อ LTV 100% หากลดดอกเบี้ย จะส่งผลกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรม ลดภาระ ด้านการลงทุนรวมถึงผู้ประกอบการอสังหาฯ และเพิ่มความสามารถผู้ต้องการซื้อบ้านเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย เช่น ลดดอกเบี้ย 25 สตางค์ จะลดค่าผ่อนบ้านได้ประมาณ 400 บาท ซึ่งตลาดอสังหาฯตอนนี้ เหมือนผืนดินกำลังขาดแคลนน้ำ ถ้าปล่อยไปแบบนี้จะกระทบจากล่างสู่บน ทำให้เศรษฐกิจชะงัก ขณะที่ซัพพลายเหลือขายมีจำนวนมาก ทั้งคอนโดและแนวราบหนักสุดในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์เหลือมากสุด ส่วนระดับบนต่ำ 10 ล้านบาท การโอนเริ่มติดลบ เพราะกู้ไม่ได้และซื้อเพื่อลงทุนเริ่มหายไปจากตลาด 20-30% คิดเป็นเม็ดเงิน 2 แสนล้านบาท

    นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า วิกฤตขณะนี้ เรียกว่าวิกฤตลองโควิด 2024 ถือว่าร้ายแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะครั้งนี้กลุ่มที่ไม่เคยเจอปัญหาก็เจอ โดยผลกระทบจากวิกฤตปี 2567 ส่งผลต่อการท่องเที่ยว ขนส่ง เกษตร ส่งออก การค้าและการจ้างงาน รายได้ครัวเรือน หนี้สินครัวเรือน และเอสเอ็มอี รายได้ไม่พอชำระหนี้ขาดเงินสด การปิดกิจการยังมีต่อเนื่อง การเปิดใหม่ การลงทุนใหม่ใช้เวลา การฟ้นตัวเศรษฐกิจไม่เท่าเทียม เป็นเคเชป ความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศกดดันการฟ้นตัวทางเศรษฐกิจ มองว่าลดดอกเบี้ยมีผลอย่างมากต่อธุรกิจและประชาชน สามารถช่วยได้ในช่วงเวลาแค่ข้ามคืน

    นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯปี 2567 ไม่ดีติดปัญหาธนาคารไม่ปล่อยกู้ ปัญหาคือดีมานด์ กำลังซื้อคนอ่อนแรง บางพื้นที่เริ่มหนัก อย่างอีอีซี เมื่อก่อนเป็นดาวรุ่ง ตอนนี้เป็นดาวร่วง เช่น ชลบุรี มีปิดโรงงาน ลดโอที อสังหาฯต่ำ 3 ล้านบาทเหลือขายมาก บางรายนำทาวน์เฮาส์ให้เช่าแทนราคา 5,000-6,000 บาทต่อเดือน หรือบางรายขายฝากกับแบงก์ ต้องลุ้นครึ่งปีหลังและปี 2568 จะเป็นอย่างไร การปรับลดดอกเบี้ย แง่บวกช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ส่งผลต่อค่าเงินอ่อนช่วยกระตุ้นการส่งออก ส่วนแง่ลบเงินเฟ้อสูง ความเสี่ยงต่อภาคธนาคาร การเก็งกำไรอสังหาฯวินาทีไม่มีใครเก็งกำไรแล้ว

    น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการกำลังเจอปัญหาโควิดอสังหาฯ ซึ่งบริบทต่างจากวิกฤตต้มยำกุ้ง วิธีแก้คือเพิ่มรายได้ ตอนนี้รายได้ไม่เข้าจากมีหนี้มาก ถ้าลดดอกเบี้ยไม่แน่ใจช่วยให้ลงทุนมากขึ้นไหม เพราะมันไม่มีคนซื้อ แบงก์ชาติไม่ต้องลดดอกเบี้ยนโยบายก็ได้ คุยกับแบงก์พาณิชย์ ช่วยลดเงินผ่อนให้ก่อน ถือว่าช่วยธุรกิจและผู้ซื้อลดภาระ ตอนนี้เรามี 98 โครงการที่เปิดขายอยู่ แต่กู้ไม่ผ่านสูง อาจปิดบางไซต์