คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ
Loading

คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ

วันที่ : 15 มกราคม 2568
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ทั้ง 4 มาตรการที่เสนอนั้น นายพิชัยรับไว้พิจารณา เนื่องจากมีบางมาตรการต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทยด้วย เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ลดภาษีที่ดิน 50% รวมถึงต้องพิจารณาถึงผลกระทบในแง่ของรายได้รัฐด้วย

         เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จากการหารือกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ประคับประคองตลาดที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว โดยนายพิชัยรับทราบถึงปัญหาและรับไว้พิจารณาทั้ง 4 ข้อเสนอ ได้แก่ ลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองเหลือ 0.01% สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568, มาตรการวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ผ่านธนาคารของรัฐ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ, ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2568 ในอัตรา 50% และลดขนาดที่ดินของโครงการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรมให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจและขนาดของครอบครัว แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่

         VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

         นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ทั้ง 4 มาตรการที่เสนอนั้น นายพิชัยรับไว้พิจารณา เนื่องจากมีบางมาตรการต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทยด้วย เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ลดภาษีที่ดิน 50% รวมถึงต้องพิจารณาถึงผลกระทบในแง่ของรายได้รัฐด้วย ถ้าเป็นบวกหรือกระทบไม่มากคงจะมีการดำเนินการให้ ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะให้ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาร่วมดำเนินการมากขึ้น

         นอกจากนี้ นายพิชัยยังรับปากจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อผ่อนคลายมาตรการ LTV กระตุ้นผู้มีกำลังซื้อให้สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีการซื้อเก็งกำไรแล้ว รวมถึงยังระบุด้วยว่า ภาครัฐกำลังเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ให้สามารถเช่าได้มากกว่า 30 ปี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์พึ่งกำลังซื้อต่างชาติที่มาซื้อบ้านหรู จึงทำให้ตลาดโดยรวมแย่มากกว่านี้ ทั้งนี้ หากภาครัฐไม่มีมาตรการออกมากระชาก คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 คงจะเหนื่อยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

         นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 4 มาตรการ รวมถึงมาตรการ LTV เป็นมาตรการที่จะมาพยุงตลาดอสังหาฯระยะสั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ เนื่องจากต้องประสานกับกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ หากรัฐมีมาตรการกระตุ้นออกมา คาดหวังว่าปี 2568 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

         นายประเสริฐกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดมีปัญหาด้านโครงสร้าง จึงนำได้เสนอมาตรการระยะกลางและระยะยาวให้พิจารณาด้วย เช่น การวางโครงสร้างสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติไม่เกิน 60 ปี โดยไม่ให้ต่างชาติถือครองที่ดิน การเพิ่มสัดส่วนการถือครองอาคารชุดของชาวต่างชาติจาก 49% เป็น 75% โดยจำกัดพื้นที่ พร้อมการจัดระเบียบการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติในฐานะผู้อยู่อาศัย การเก็บภาษีจากการถือครองและสัญญาเช่าระยะยาวของชาวต่างชาติ เพื่อจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เป็นต้น

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ