CPN ปั้นธุรกิจที่พักอาศัยโต มั่นใจรายได้ปีนี้ 7.5 พันล้าน
Loading

CPN ปั้นธุรกิจที่พักอาศัยโต มั่นใจรายได้ปีนี้ 7.5 พันล้าน

วันที่ : 28 มิถุนายน 2567
CPN มั่นใจรายได้ธุรกิจที่พักอาศัยปีนี้ แตะ 7.5 พันล้านบาท เดินหน้าพัฒนา 10 โครงการใหม่มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท ไม่กังวลยอดปฏิเสธสินเชื่อ เหตุกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ตั้งเป้า 3 ปีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 20%
 
    นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า แม้ธุรกิจหลักของบริษัทจะเป็นธุรกิจห้างสรรพสินค้า แต่ธุรกิจโครงการที่อยู่อาศัย (Residence) สามารถทำรายได้ ให้กับบริษัทเป็นอันดับ 2 ของรายได้รวม อีกทั้งยังทำกำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นรายได้รวมกลุ่มธุรกิจ Residence เติบโตเฉลี่ยราว 20% ต่อปี ซึ่งช่วยสร้างให้ระบบนิเวศ (Ecosystem) ทั้งธุรกิจห้างสรรพสินค้า และธุรกิจ Residence สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากกลยุทธ์ Shop-Eat-WorkPlay-Stay และ "Live" สร้างย่าน- สร้างเมือง เป็นสังคมของ "Central Citizens"

    จ่อเปิด 10 โครงการใหม่

    สำหรับในปี 2567 CPN มีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดรวม 43 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง ครอบคลุม 20 จังหวัด ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ธุรกิจ Residence มียอดขาย และยอดรับรู้รายได้ราว 3.5 พันล้านบาท หรือราว 50% ของเป้ารายได้รวมทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 7-7.5 พันล้านบาท ขณะปีนี้กลุ่มธุรกิจ Residence เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 10 โครงการแบ่งเป็นโครงการบ้าน 3 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการมูลค่าโครงการรวม 13,430 ล้านบาท

    ทั้งนี้บริษัทยังจะเน้นจุดแข็ง 3 ด้านซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของการพัฒนาโครงการ คือ 1.การพัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพ, การดีไซน์แบบบ้าน และคอนโดมิเนียมให้มีพื้นที่ (Spec) ส่วนต่างๆ ที่ให้มากกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง (Quality of Life) 2.การพัฒนาโครงการที่อยู่ติด หรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และ 3.ลูกบ้านทุกคนจะได้ใช้ชีวิตในสังคมคุณภาพที่สะดวกสบายและครบวงจร รวมถึงบริการหลังการขายอาทิ การบริการฝากขาย หรือปล่อยเช่าในกรณีที่ลูกค้าต้องการ

     เจาะลูกค้ากำลังซื้อสูง

     นางสาววัลยา ยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังเติบโตช้ากว่าที่หลายฝ่ายประมาณการ และกลายเป็นปัจจัยท้าทาย "กำลังซื้อ" ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่บริษัทมั่นใจในกลยุทธ์ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการอื่นในอุตสาหกรรม ดังนั้นยอดปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าของกลุ่มบริษัทจึงอยู่ที่ราว 20% ต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่สูงราว 50-60% ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าที่สามารถชำระด้วยเงินสดสูงราว 60% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์

     "ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ามาก แต่ด้วยกลุ่มเป้าหมายของบริษัทเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ในแต่ละทำเลส่งผลให้บริษัทยังสามารถขายโครงการคอนโด ที่ระดับราคายูนิตราว 2.5-3 ล้านบาท ได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ยังสามารถชำระด้วยเงินสด"

      นายกรี เดชชัย President, Residential Business CPN กล่าวว่า กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะพิจารณาดำเนินมาตรการภาคอสังหาริมทรัพย์ด้านใด กลุ่มบริษัทก็พร้อมที่จะปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว

      "ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทคือคนไทยราว 90% ตัวอย่างเช่นโครงการที่ภูเก็ตก็มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติที่ซื้อตรงกับบริษัทเพียง 20% ส่วนต่างชาติอยู่อาศัยในโครงการราว 35% นั้นก็เป็นการเช่าพักอาศัย ซึ่งมีคนไทยเป็นนักลงทุนซื้อ โครงการและฝากให้บริษัทจัดหาผู้เช่าให้ ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะเปิดให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ซื้อคอนโดได้ถึง 75% หรือที่ 49% ถือครองได้นาน 99 ปี หรือ 50 ปี ก็พร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ ให้สอดคล้องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"

       ทั้งนี้ธุรกิจ Residence ตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ในระยะ 3 ปี หรือเติบโตเฉลี่ยราว 20% ต่อปี โดยมีความพร้อมที่จะลงทุนพัฒนาโครงการบนทำเลศักยภาพใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และโรบินสันซึ่งยังมีอีกหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างศึกษาอีกหลายโครงการในอนาคต

       "บริษัทยังมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บนที่ดินของกลุ่มบริษัททั้งบริเวณห้างเซ็นทรัล และห้างโรบินสันซึ่งแม้ว่าจะเป็นเมืองรองแต่กำลังซื้อภายในแต่ละจังหวัด รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงก็ยังคงมีอีกมาก"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ