'เพอร์เฟค-อีสเทอร์นสตาร์' พลิกเกม

   หันบุกบ้านแพง-ลดขนาดโครงการ

    อสังหาฯพลิกเกมบุกบ้านแพง ลดขนาดโครงการ หนี'รีเจ็กต์เรต'พุ่งไม่หยุด 'เพอร์เฟค' ลดพอร์ตต่ำ 5 ล้าน สร้างตามดีมานด์ เน้นทำเลมียอดขายสม่ำเสมอ 'อีสเทอร์นสตาร์' ชี้กำลังซื้อระยองซึมยาว หันลุยราคา 8-20 ล้าน 'ASW'ชี้ดีมานด์โซนมหา'ลัยยังขายดี จ่อเขย่าแผนเปิดเพิ่ม

    นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรกของปี 2567 ยังไม่ค่อยดีต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 และมีแนวโน้มที่กำลังซื้อในตลาดจะปรับตัวลดลงมากกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกมานั้น ยังไม่ส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาด สะท้อนจากการที่ไม่มีคนเข้ามาดูโครงการเลยในช่วงที่ผ่านมา มาจากภาวะหนี้ครัวเรือนและการปฏิเสธสินเชื่อ (รีเจ็กต์เรต) ที่อยู่อาศัยต่ำ 3 ล้านบาท ยังอยู่ระดับสูง ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

    "ล่าสุดรีเจ็กต์เรตลามมาบ้าน 5 ล้านบาทแล้ว ซึ่งของบริษัทกลุ่มบ้านต่ำ 5 ล้านบาท มีรีเจ็กต์เรต 35-40% ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ บ้านแฝดหลังเล็ก ทำให้เราต้องปรับแผนหันไปทำบ้านราคา 7-8 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงสร้างเท่าที่มีดีมานด์ ในทำเลขายดี มียอดขายสม่ำเสมอ เช่น รอบสนามบินสุวรรณภูมิ ถนนหอการค้าไทย จะไม่เหมือนเมื่อก่อนที่สร้างจำนวนมากๆ" นายวงศกรณ์กล่าว

     นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการในจังหวัดระยองเป็นส่วนใหญ่ จากที่ติดตามยอดขายปี 2567 ในรอบ 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ยังซึมต่อเนื่อง มาตรการยังไม่มีผลต่อกำลังซื้อในตลาดที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน รีเจ็กต์เรต และยังไม่มีปัจจัยเด่นที่จะ ฟ้นตลาด

      นายไพโรจน์กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดรีเจ็กต์เรตบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาทอยู่ที่ 30% มากกว่า 5 ล้านบาทอยู่ที่ 10% ซึ่งมีสัดส่วนน้อย เพราะลูกค้าทำงานบริษัทใหญ่ระดับท็อป 5 ของจังหวัดระยอง จึงไม่ค่อยมีปัญหา ประกอบกับบริษัทหันทำแนวราบราคาแพงมากขึ้น ตั้งแต่ 8-20 ล้านบาท ซึ่งยังมีกำลังซื้อและได้รับการตอบรับดี โดยเมื่อเดือนมีนาคมเปิดขายบ้านเดี่ยว 15-20 ล้านบาทที่บ้านฉาง จำนวน 6 หลัง ปิดการขายได้แล้ว จำนวน 5 หลัง มูลค่า 100 ล้านบาท ยังเตรียมจะเปิดโครงการในกรุงเทพฯเพิ่ม เป็นบ้านราคา 20 ล้านบาท โดยปี 2567 ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 3-5 โครงการ และตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี มียอดขาย 3,000-5,000 ล้านบาท

     นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดรีเจ็กต์เรตแต่ละทำเลไม่เท่ากัน หากเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ทั่วไปอยู่ที่ 30% ส่วนแบรนด์เคฟอยู่ที่ 10% เนื่องจากอยู่ในทำเลมหาวิทยาลัย มีกลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าจึงไม่มีปัญหามาก ล่าสุด เคฟ ลูมินัส บางมด ใกล้ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หลังเปิดขายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 70% ถือว่าดีเกินคาด ซึ่งในปีนี้บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผน และอาจจะมีพิจารณาเปิดโครงการเพิ่มอีกด้วย