อสังหาฯ ฝากขุนคลังใหม่ 'หั่นภาษี'
Loading

อสังหาฯ ฝากขุนคลังใหม่ 'หั่นภาษี'

วันที่ : 2 พฤษภาคม 2567
นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ยังคงเดินหน้าจะยื่นต่อกระทรวงการคลังให้พิจารณาทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยระยะเร่งด่วนขอให้จัดเก็บในอัตราลดหย่อน 50% สำหรับปี 2568 หลังจากปี 2567 เก็บเต็มอัตรา 100% เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว
    ฟื้นอัตราลด50% ช่วยภาคธุรกิจ

    โอดจ่ายหลายเด้งสวนทางศก.ฟุบ

    เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น 'อสังหาฯ'ฝากการบ้านขุนคลังใหม่ ทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตื๊อขอลด 50% โอดแบกสต๊อกอ่วม จี้รื้อเกณฑ์เสียอัตราที่อยู่อาศัย ลดภาระ เหตุจ่ายหลายเด้ง บิ๊กธุรกิจแห่ปรับแลนด์แบงก์หนีภาษีแพง

    นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ยังคงเดินหน้าจะยื่นต่อกระทรวงการคลังให้พิจารณาทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยระยะเร่งด่วนขอให้จัดเก็บในอัตราลดหย่อน 50% สำหรับปี 2568 หลังจากปี 2567 เก็บเต็มอัตรา 100% เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และขอให้แก้ไขอัตราภาษีอยู่ระหว่างการพัฒนาหรือสร้างเสร็จของโครงการที่ยังไม่ได้ขายเกิน 3 ปี รวมถึงการบริการสาธารณะในโครงการจัดสรร เช่น สโมสร สระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ จากกำหนดให้เป็นประเภทอื่นๆ และเก็บในอัตราก้าวหน้า ให้เป็นอัตราที่อยู่อาศัย เพราะเป็นการสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อประกอบธุรกิจหรือถือเป็นทรัพย์สิน ส่วนระยะยาวเป็นเรื่องปรับแก้โครงสร้างของภาษีของต่างชาติให้เสียในอัตราสูงกว่าคนไทย ซึ่งทางกระทรวงการคลังมีแผนจะทบทวนกฎหมายอยู่แล้ว

    นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าจะทำให้ตลาดโดยรวมที่อยู่อาศัยดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 เก็บ 100% ไม่มีส่วนลดเหมือนที่ผ่านมา ในส่วนของสต๊อกที่ยังคงค้างครบ 3 ปี ต้องจ่ายภาษีที่ดินฯ ซึ่งปีนี้จะต้องจ่ายในอัตราอื่นๆ เพิ่ม 0.3% ซึ่งอยากให้รัฐบาลทบทวน ให้เป็นอัตราที่อยู่อาศัยหรือลดหย่อนอัตราการจัดเก็บให้ เพื่อบรรเทาภาระ เพราะผู้ประกอบการยังมีภาระจ่ายภาษีอื่นๆ อีกหลายเด้ง เช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% เป็นต้น ขณะที่ตลาดยังไม่ฟื้นตัว โดยปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกคอนโดมิเนียมที่ยังขายไม่หมดร่วม 1,200 ยูนิต มูลค่า 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ต้องจ่ายเต็มอัตรา

    รายงานข่าวจากวงการธุรกิจรับบริหารจัดการที่ดินกล่าวว่า ปี 2567 เป็นปีแรกที่ผู้มีที่ดินเปล่าแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีก 0.3% ทำให้มีเจ้าของที่ดินทั้งที่เป็นรายย่อย รวมถึงผู้ได้รับมรดกจากพ่อแม่ และบริษัทขนาดใหญ่ในวงการธุรกิจ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์เครื่องเขียน เป็นต้น มาปรึกษาขอให้ช่วยบริหารจัดการที่ดินเปล่า มีขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ ถึง 60-70 ไร่ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ด้วยการปลูกพืชเกษรกรรมตามที่กฎหมายกำหนด เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดภาระจ่ายภาษีที่ดินฯ จากอัตราที่รกร้างว่างเปล่า เป็นอัตราเกษตรกรรม

    "บางรายที่เขายังพอรับภาระภาษีไหว ยังไม่มีปรับพื้นที่เป็นเกษตร แต่มีบางรายที่ลงทุนซื้อบ้านน็อกดาวน์มาปลูกไว้บนที่ดินเพื่อให้จ่ายในอัตราที่อยู่อาศัย ซึ่งจะถูกกว่าอัตรา ที่ดินอื่นๆ ซึ่งต่อไปคงมีมากขึ้นอีก เพราะในปี 2569 ถ้ายังปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ อีก จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 0.3%" รายงานข่าวกล่าว