อสังหาฯปีนี้น่าห่วงคนชะลอซื้อบ้าน
วันที่ : 18 กุมภาพันธ์ 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ชี้ปีนี้ตลาดเสี่ยงชะลอตัว แนะรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้น ด้านธอส. เตรียมกรอบวงเงิน 37,500 ล้านบาท จัด 4 สินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ
แนะรัฐออกมาตรการกระตุ้น-ธอส.จัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารและรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยใน ปี 2567 คาดว่าทรงตัวและมีความเสี่ยงที่จะปรับลดลง หลังจากช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 ภาพรวมชะลอตัว แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งปีพบว่ามีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 366,825 หน่วย มูลค่ารวม 1.05 ล้านล้านบาท โดยลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 6.6% และ 1.7% ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่มีจำนวน 678,347 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2.8%
เป็นผลจากปี 2566 มีปัจจัยลบค่อนข้างมาก ทั้งการใช้มาตรการแอลทีวีควบคุมการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรวม 5 ครั้ง เป็นผลให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อ ประกอบกับสถาบันการเงินมีการปฏิเสธสินเชื่อผู้กู้ซื้อบ้านในกลุ่มราคาต่ำ 3 ล้านบาทมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากผู้ซื้อกลุ่มนี้มีหนี้ครัวเรือนสูง
อย่างไรก็ดีในภาวะที่ผู้ซื้อยังไม่ตัดสินใจชัดเจนและดอกเบี้ยยังไม่ลดลง การมีมาตรการภาครัฐเข้ามาช่วยในขณะนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เช่น การให้ซอฟต์โลน และการผ่อนปรนแอลทีวี จะช่วยสร้างบรรยากาศการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ ได้ดีขึ้น และสามารถผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2566 พบว่ามีจำนวน 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 25% และคิดเป็นสัดส่วน 13.4% ของจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด ซึ่งตลาดต่างชาติยังมีความสำคัญในภาวะที่ภาพรวมกำลังซื้อในประเทศยังไม่ดี ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการกระตุ้นให้ต่างชาติตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมกรอบวงเงิน 37,500 ล้านบาท จัดทำ 4 สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย 1. สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2567 ดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเท่ากับ 2.80% ต่อปี ลูกค้าสวัสดิการ และ 2.95% ต่อปี ลูกค้ารายย่อย 2. สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปี 2567 ดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี 3. สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี และ 4. โครงการบ้าน ธอส. แสนสุข ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก เท่ากับ 3.25% ต่อปี ผ่อนได้สูงสุด 40 ปี
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารและรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยใน ปี 2567 คาดว่าทรงตัวและมีความเสี่ยงที่จะปรับลดลง หลังจากช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 ภาพรวมชะลอตัว แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งปีพบว่ามีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 366,825 หน่วย มูลค่ารวม 1.05 ล้านล้านบาท โดยลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 6.6% และ 1.7% ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่มีจำนวน 678,347 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2.8%
เป็นผลจากปี 2566 มีปัจจัยลบค่อนข้างมาก ทั้งการใช้มาตรการแอลทีวีควบคุมการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรวม 5 ครั้ง เป็นผลให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อ ประกอบกับสถาบันการเงินมีการปฏิเสธสินเชื่อผู้กู้ซื้อบ้านในกลุ่มราคาต่ำ 3 ล้านบาทมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากผู้ซื้อกลุ่มนี้มีหนี้ครัวเรือนสูง
อย่างไรก็ดีในภาวะที่ผู้ซื้อยังไม่ตัดสินใจชัดเจนและดอกเบี้ยยังไม่ลดลง การมีมาตรการภาครัฐเข้ามาช่วยในขณะนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เช่น การให้ซอฟต์โลน และการผ่อนปรนแอลทีวี จะช่วยสร้างบรรยากาศการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ ได้ดีขึ้น และสามารถผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2566 พบว่ามีจำนวน 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 25% และคิดเป็นสัดส่วน 13.4% ของจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด ซึ่งตลาดต่างชาติยังมีความสำคัญในภาวะที่ภาพรวมกำลังซื้อในประเทศยังไม่ดี ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการกระตุ้นให้ต่างชาติตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมกรอบวงเงิน 37,500 ล้านบาท จัดทำ 4 สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย 1. สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2567 ดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเท่ากับ 2.80% ต่อปี ลูกค้าสวัสดิการ และ 2.95% ต่อปี ลูกค้ารายย่อย 2. สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปี 2567 ดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี 3. สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี และ 4. โครงการบ้าน ธอส. แสนสุข ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก เท่ากับ 3.25% ต่อปี ผ่อนได้สูงสุด 40 ปี
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ