เดินหน้าลุยรถไฟฟ้าภูเก็ต
วันที่ : 4 ตุลาคม 2566
รฟม. ชง สุริยะ ผลักดัน 3 โครงการรถไฟฟ้า ส้ม-น้ำตาล-รถไฟฟ้าภูเก็ต 2.2 แสนล้านบาท ให้เดินหน้าต่อ สายสีส้ม รอลงนามสัญญา สายสีน้ำตาล อยู่ระหว่างฟังความเห็น
รฟม.ดัน 3 โครงการยักษ์มูลค่า 2.2 แสนล้าน
"รถไฟฟ้าภูเก็ต" รอเคาะรูปแบบรถชัดๆ "สุรพงษ์" เดินเครื่องประมูล 3 ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.กำลังรวบรวมรายละเอียดโครงการที่ รฟม. มีแผนงานเร่งด่วนที่ต้องเสนอต่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้พิจารณาเพื่อผลักดันให้มีการดำเนินงานต่อไปใน 3 โครงการ คือ
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 140,000 ล้านบาทซึ่ง รฟม.ได้คัดเลือกเอกชนและได้ผู้ชนะการประมูลแล้วรอเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อลงนามสัญญา แต่ยังมีคดีพิพาทเกี่ยวกับการคัดเลือกโครงการระหว่าง รฟม.และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณา
2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี(บึงกุ่ม)ระยะทาง 22.1 กม.วงเงิน 49,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติโดยในส่วนพื้นที่ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจที่จะใช้พื้นที่เกาะกลางร่วมกับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือระยะที่ 1 ตอน N2 (ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ ด้านตะวันออก) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม.จะวางแผนการก่อสร้างร่วมกัน และในส่วนของ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล รฟม.จะเป็นผู้ก่อสร้างเองจากเดิมที่จะให้ กทพ.ดำเนินการและพื้นที่ด้านข้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ที่ กทพ.มีแผนทำอุโมงค์ทางด่วน 2 ชั้นตอน N1 (ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ)
3.โครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม.วงเงิน 33,000 ล้านบาท กระทรวงฯได้มีนโยบายให้ปรับรูปแบบระบบรถเพื่อลดวงเงินลงทุนก่อสร้าง ทำให้โครงการล่าช้าออกไปจึงต้องรอฟังนโยบายนายสุริยะว่าจะใช้เทคโนโลยีรูปแบบระบบรถแบบใด จากนั้นระบบขนส่งมวลชนอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา พิษณุโลก ก็จะเดินหน้าต่อได้ โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่และนครราชสีมา ได้ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้วส่วนจังหวัดพิษณุโลก อยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษา
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคมกล่าวว่า ได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปจัดลำดับความสำคัญโครงการที่จะทำเร่งด่วนมาให้พิจารณา โดยเฉพาะโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง คือ สายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม.วงเงิน 6,448 ล้านบาท,สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม.วงเงิน 10,670 ล้านบาท และสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม.วงเงิน 4,616 ล้านบาท ที่ รฟท.กำลังทบทวนตัวเลขการลงทุน
ทั้งนี้ มองว่าทั้ง 3 ส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง มีความเหมาะสมที่จะดำเนินการ ขณะเดียวกันได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า หากจะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยาย ควรที่จะพิจารณาศึกษาเส้นทางในส่วนต่อขยายเพิ่มเติมไปด้วยเนื่องจากมองว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรางให้ครอบคลุมพื้นที่ และเพิ่มระยะทางการบริการให้กับประชาชนในการเดินทางจากนอกเมืองเข้าเมืองด้วยระบบราง
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนรูปแบบในการลงทุนนั้นจากเดิมที่เปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ ในรูปแบบ PPP นั้นว่า ในเรื่องนี้ต้องให้ รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า จะจูงใจเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนหรือไม่แต่หากไม่ได้รับความสนใจจากเอกชนเนื่องจากเอกชนมองว่าในเส้นทางดังกล่าวไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ดังนั้นการจะเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากรูปแบบ PPP มาเป็นการเปิดประมูลแบบทั่วไปก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
"รถไฟฟ้าภูเก็ต" รอเคาะรูปแบบรถชัดๆ "สุรพงษ์" เดินเครื่องประมูล 3 ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.กำลังรวบรวมรายละเอียดโครงการที่ รฟม. มีแผนงานเร่งด่วนที่ต้องเสนอต่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้พิจารณาเพื่อผลักดันให้มีการดำเนินงานต่อไปใน 3 โครงการ คือ
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 140,000 ล้านบาทซึ่ง รฟม.ได้คัดเลือกเอกชนและได้ผู้ชนะการประมูลแล้วรอเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อลงนามสัญญา แต่ยังมีคดีพิพาทเกี่ยวกับการคัดเลือกโครงการระหว่าง รฟม.และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณา
2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี(บึงกุ่ม)ระยะทาง 22.1 กม.วงเงิน 49,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติโดยในส่วนพื้นที่ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจที่จะใช้พื้นที่เกาะกลางร่วมกับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือระยะที่ 1 ตอน N2 (ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ ด้านตะวันออก) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม.จะวางแผนการก่อสร้างร่วมกัน และในส่วนของ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล รฟม.จะเป็นผู้ก่อสร้างเองจากเดิมที่จะให้ กทพ.ดำเนินการและพื้นที่ด้านข้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ที่ กทพ.มีแผนทำอุโมงค์ทางด่วน 2 ชั้นตอน N1 (ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ)
3.โครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กม.วงเงิน 33,000 ล้านบาท กระทรวงฯได้มีนโยบายให้ปรับรูปแบบระบบรถเพื่อลดวงเงินลงทุนก่อสร้าง ทำให้โครงการล่าช้าออกไปจึงต้องรอฟังนโยบายนายสุริยะว่าจะใช้เทคโนโลยีรูปแบบระบบรถแบบใด จากนั้นระบบขนส่งมวลชนอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา พิษณุโลก ก็จะเดินหน้าต่อได้ โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่และนครราชสีมา ได้ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้วส่วนจังหวัดพิษณุโลก อยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษา
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคมกล่าวว่า ได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปจัดลำดับความสำคัญโครงการที่จะทำเร่งด่วนมาให้พิจารณา โดยเฉพาะโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง คือ สายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม.วงเงิน 6,448 ล้านบาท,สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม.วงเงิน 10,670 ล้านบาท และสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม.วงเงิน 4,616 ล้านบาท ที่ รฟท.กำลังทบทวนตัวเลขการลงทุน
ทั้งนี้ มองว่าทั้ง 3 ส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง มีความเหมาะสมที่จะดำเนินการ ขณะเดียวกันได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า หากจะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยาย ควรที่จะพิจารณาศึกษาเส้นทางในส่วนต่อขยายเพิ่มเติมไปด้วยเนื่องจากมองว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรางให้ครอบคลุมพื้นที่ และเพิ่มระยะทางการบริการให้กับประชาชนในการเดินทางจากนอกเมืองเข้าเมืองด้วยระบบราง
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนรูปแบบในการลงทุนนั้นจากเดิมที่เปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ ในรูปแบบ PPP นั้นว่า ในเรื่องนี้ต้องให้ รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า จะจูงใจเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนหรือไม่แต่หากไม่ได้รับความสนใจจากเอกชนเนื่องจากเอกชนมองว่าในเส้นทางดังกล่าวไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ดังนั้นการจะเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากรูปแบบ PPP มาเป็นการเปิดประมูลแบบทั่วไปก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ