ส่องแบบ 5 สถานีไฮสปีดไทยจีน ชูดีไซน์วัฒนธรรมประจำถิ่น
วันที่ : 19 กรกฎาคม 2568
การรถไฟฯ ประกาศเดินหน้าสร้าง "ไฮสปีดไทยจีน" ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย เม็ดเงินกว่า 3.4 แสนล้านบาท จ่อประมูล ก.ย.นี้ พร้อมเปิดแบบก่อสร้าง 5 สถานีใหม่ ดึงวัฒนธรรมประจำถิ่นออกแบบให้ร่วมสมัย หวังดันเป็นจุดเช็คอินท่องเที่ยว
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความพร้อมผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และจีน (ไฮสปีดไทย - จีน) โดยยืนยันว่าภายในปีนี้จะดำเนินการเปิดประกวดราคาทั้งในส่วนของงานโยธาก่อสร้างตลอดแนวเส้นทาง และการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐ และเอกชน (PPP) เพื่อบริหารและเดินรถไฮสปีดเทรนสายนี้
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยว่า ปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างเตรียมประมูลงานโยธาไฮสปีดไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย มูลค่า 3.4 แสนล้านบาท โดยสถานะปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนแบ่งสัญญาประมูล เบื้องต้นประเมินไว้เป็น งานโยธา 7 สัญญา และศูนย์ซ่อม 1 สัญญา ทั้งนี้คาดว่ารายละเอียดทั้งหมดจะแล้วเสร็จในกลางเดือน ส.ค.นี้ และออกประกาศเชิญชวนผู้รับเหมายื่นข้อเสนอในเดือนก.ย.2568 หลังจากนั้นเร่งรัดก่อสร้างในปี 2569 เพื่อให้โครงการไฮสปีดไทย - จีน สามารถเปิดเดินรถตลอดแนวเส้นทางภายในปี 2574
สำหรับผลการศึกษาออกแบบก่อสร้างไฮสปีดไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร โครงการมีจุดเริ่มต้นหลังสถานีนครราชสีมา และจุดสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง (ฝั่งไทย) รวมทั้งหมด 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย
รวมถึงยังมีศูนย์ซ่อมบำรุง (Deport) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา รวมถึงย่านเก็บตู้สินค้าและเปลี่ยนถ่ายสินค้า 1 แห่งที่นาทา
ทั้งนี้ รฟท.ได้ออกแบบรายละเอียดของ 5 สถานีใหม่ของไฮสปีดไทย - จีน โดยเน้นนำเอาวัฒนธรรมประจำถิ่นมาประยุกต์ในการออกแบบ เพื่อทำให้แต่ละสถานีสะท้อนจุดเด่นของพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยว สถานีรถไฟจะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ประชาชน และนักท่องเที่ยว เมื่อเข้ามาใช้บริการไฮสปีดเทรน และใช้บริการจุดจอดสถานีเหล่านี้ได้เก็บภาพบรรยากาศ โดยแต่ละสถานีมีรายละเอียดการออกแบบ ประกอบด้วย
สถานีบัวใหญ่
นำลวดลายและรูปทรงดอกบัวดัดแปลงผสมผสานกับความเป็นอีสานให้มีความทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีบ้านไผ่
นำลวดลายเครื่องจักสานไม้ไผ่ ลานผ้าทออีสาน และรูปทรงของไม้ไผ่มาออกแบบให้ทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีขอนแก่น
นำลวดลายผ้าทออีสาน เครื่องดนตรีแคนลายตะเว็น และสิมอีสาน มาออกแบบให้มีความร่วมสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีอุดรธานี
นำลวดลายดินเผาบ้านเชียง ลายผ้าทออีสานมาออกแบบให้ทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีหนองคาย
นำพญานาคและคลื่นน้ำมาออกแบบในรูปแบบที่ทันสมัย เป็นประตูสู่ประเทศไทย และประตูสู่อีสาน
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว ตรวจคนเข้าเมือง พื้นที่จอดรถ ทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟทางคู่หนองคาย
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสารภายในประเทศ เข้า - ออกนอกประเทศ
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยว่า ปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างเตรียมประมูลงานโยธาไฮสปีดไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย มูลค่า 3.4 แสนล้านบาท โดยสถานะปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนแบ่งสัญญาประมูล เบื้องต้นประเมินไว้เป็น งานโยธา 7 สัญญา และศูนย์ซ่อม 1 สัญญา ทั้งนี้คาดว่ารายละเอียดทั้งหมดจะแล้วเสร็จในกลางเดือน ส.ค.นี้ และออกประกาศเชิญชวนผู้รับเหมายื่นข้อเสนอในเดือนก.ย.2568 หลังจากนั้นเร่งรัดก่อสร้างในปี 2569 เพื่อให้โครงการไฮสปีดไทย - จีน สามารถเปิดเดินรถตลอดแนวเส้นทางภายในปี 2574
สำหรับผลการศึกษาออกแบบก่อสร้างไฮสปีดไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร โครงการมีจุดเริ่มต้นหลังสถานีนครราชสีมา และจุดสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง (ฝั่งไทย) รวมทั้งหมด 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย
รวมถึงยังมีศูนย์ซ่อมบำรุง (Deport) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา รวมถึงย่านเก็บตู้สินค้าและเปลี่ยนถ่ายสินค้า 1 แห่งที่นาทา
ทั้งนี้ รฟท.ได้ออกแบบรายละเอียดของ 5 สถานีใหม่ของไฮสปีดไทย - จีน โดยเน้นนำเอาวัฒนธรรมประจำถิ่นมาประยุกต์ในการออกแบบ เพื่อทำให้แต่ละสถานีสะท้อนจุดเด่นของพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยว สถานีรถไฟจะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ประชาชน และนักท่องเที่ยว เมื่อเข้ามาใช้บริการไฮสปีดเทรน และใช้บริการจุดจอดสถานีเหล่านี้ได้เก็บภาพบรรยากาศ โดยแต่ละสถานีมีรายละเอียดการออกแบบ ประกอบด้วย
สถานีบัวใหญ่
นำลวดลายและรูปทรงดอกบัวดัดแปลงผสมผสานกับความเป็นอีสานให้มีความทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีบ้านไผ่
นำลวดลายเครื่องจักสานไม้ไผ่ ลานผ้าทออีสาน และรูปทรงของไม้ไผ่มาออกแบบให้ทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีขอนแก่น
นำลวดลายผ้าทออีสาน เครื่องดนตรีแคนลายตะเว็น และสิมอีสาน มาออกแบบให้มีความร่วมสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีอุดรธานี
นำลวดลายดินเผาบ้านเชียง ลายผ้าทออีสานมาออกแบบให้ทันสมัย
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
สถานีหนองคาย
นำพญานาคและคลื่นน้ำมาออกแบบในรูปแบบที่ทันสมัย เป็นประตูสู่ประเทศไทย และประตูสู่อีสาน
โดยสถานีประกอบด้วย
- ชั้นที่ 1 ชั้นทางเข้าอาคาร จำหน่ายตั๋ว ตรวจคนเข้าเมือง พื้นที่จอดรถ ทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟทางคู่หนองคาย
- ชั้นที่ 2 ชั้นพื้นที่พักคอยผู้โดยสารภายในประเทศ เข้า - ออกนอกประเทศ
- ชั้นที่ 3 ชั้นชานชาลารถไฟ
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ