DRT มั่นใจตลาดก่อสร้างโตต่อเนื่องลุยเพิ่มกำลังผลิต1แสนตันรับดีมานด์ใหม่
วันที่ : 22 กุมภาพันธ์ 2566
DRT เผยว่า สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ DRT จะมุ่งต่อยอดข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันแบรนด์ ตราเพชร ที่มีความหลากหลายผลิตภัณฑ์สามารถก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ทั้งระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ผ่านการนำเสนอแบบโชลูชันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า บรรยากาศด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วง 1เดือนครึ่งที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในปีนี้ตลาดจะมีการขยายตัวต่อจากปีก่อนหน้า และเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดในปี 66 นี้ บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 5% จากรายได้ป 65 ซึ่งมีรายได้รวม 5,250 ล้านบาท
โดย DRT เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการทุกด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดให้แก่แบรนด์ "ตราเพชร" ทั้งด้านประสิทธิภาพการผลิตโดยรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 90% เพื่อสนับสนุนการทำตลาด โดยจะร่วมมือกับคู่ค้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในทุกช่องทางการจำหน่ายเพื่อขับเคลื่อนแผนงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ DRT จะมุ่งต่อยอดข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันแบรนด์ 'ตราเพชร' ที่มีความหลากหลายผลิตภัณฑ์สามารถก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ทั้งระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ผ่านการนำเสนอแบบโชลูชันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยจุดเด่น Function และ Fashion ที่ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีรูปแบบและสีสันสวยงาม พร้อมบริการด้วยทีมช่างมืออาชีพตอบโจทย์ความต้องการคู่ค้าและเพิ่มมูลค่าการขายให้สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน DRT มีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้นต่อเนื่องภายใต้งบลงทุน 200 ล้านบาท โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของไลน์การผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและอิฐมวลเบา รวมถึงดำเนินโครงการเพื่อยกระดับโรงงานไปสู่ Smart Factory ส่วนความคืบหน้าการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีตอีก 100,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรและผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 67
สำหรับผลการดำเนินงานปี65 บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้มากกว่าเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมเป็นสถิติสูงสุดที่ 5,250.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.80% และมีกำไรสุทธิ 625.61 ล้านบาท เติบโต 6.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้ง ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย ร้านค้าโมเดิร์นเทรด ผู้ประกอบการอสังหาฯและตลาดต่างประเทศ ทำให้ DRT สามารถบริหารพอร์ตสินค้าและ Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยช่องทางการจำหน่ายผ่านลูกค้าโครงการอสังหาฯมีอัตราขยายตัวที่ดี ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 13% เพิ่มเป็น 16% ขณะที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยยังเป็นช่องทางจำหน่ายหลักมีสัดส่วนรายได้สูงสุดคิดเป็น 55% และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่มีสัดส่วน 16% ของยอดขายรวมทั้งหมด และส่วนที่เหลืออีกกว่า 13% มาจากช่องทางตลาดต่างประเทศ"
โดย DRT เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการทุกด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดให้แก่แบรนด์ "ตราเพชร" ทั้งด้านประสิทธิภาพการผลิตโดยรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 90% เพื่อสนับสนุนการทำตลาด โดยจะร่วมมือกับคู่ค้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในทุกช่องทางการจำหน่ายเพื่อขับเคลื่อนแผนงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ DRT จะมุ่งต่อยอดข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันแบรนด์ 'ตราเพชร' ที่มีความหลากหลายผลิตภัณฑ์สามารถก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ทั้งระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ผ่านการนำเสนอแบบโชลูชันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยจุดเด่น Function และ Fashion ที่ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีรูปแบบและสีสันสวยงาม พร้อมบริการด้วยทีมช่างมืออาชีพตอบโจทย์ความต้องการคู่ค้าและเพิ่มมูลค่าการขายให้สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน DRT มีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้นต่อเนื่องภายใต้งบลงทุน 200 ล้านบาท โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของไลน์การผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและอิฐมวลเบา รวมถึงดำเนินโครงการเพื่อยกระดับโรงงานไปสู่ Smart Factory ส่วนความคืบหน้าการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีตอีก 100,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรและผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 67
สำหรับผลการดำเนินงานปี65 บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้มากกว่าเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมเป็นสถิติสูงสุดที่ 5,250.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.80% และมีกำไรสุทธิ 625.61 ล้านบาท เติบโต 6.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้ง ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย ร้านค้าโมเดิร์นเทรด ผู้ประกอบการอสังหาฯและตลาดต่างประเทศ ทำให้ DRT สามารถบริหารพอร์ตสินค้าและ Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยช่องทางการจำหน่ายผ่านลูกค้าโครงการอสังหาฯมีอัตราขยายตัวที่ดี ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 13% เพิ่มเป็น 16% ขณะที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยยังเป็นช่องทางจำหน่ายหลักมีสัดส่วนรายได้สูงสุดคิดเป็น 55% และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่มีสัดส่วน 16% ของยอดขายรวมทั้งหมด และส่วนที่เหลืออีกกว่า 13% มาจากช่องทางตลาดต่างประเทศ"
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ