ส.รับสร้างบ้านลุ้นปีหน้ากระเตื้อง
วันที่ : 17 พฤศจิกายน 2567
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 3 และ 4 แนวโน้มเริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มรับสร้างบ้าน 5-10 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากยอดสั่งสร้างบ้านภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ครั้งล่าสุด
นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 ที่ผ่านมายอดทำสัญญาสร้างบ้านปรับตัวลดลงประมาณ 20% ไม่ต่างจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปซึ่งเท่าที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันพบว่ายอดขายลดลงไป 40-50% แต่อย่างไรก็ดี ช่วงไตรมาส 3 และ 4 แนวโน้มเริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มรับสร้างบ้าน 5-10 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากยอดสั่งสร้างบ้านภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ครั้งล่าสุด ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งมาตรการเงิน 10,000 บาท ที่ส่งถึงมือประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว
ทำให้ผู้บริโภคที่วางแผนสร้างบ้านเริ่มกลับมาตัดสินใจสร้างบ้านอีกครั้ง แม้ว่าจากการประเมินภาพรวมตลาดไตรมาส 4 ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 10% และทำให้มูลค่าตลาดรับสร้างผ่านสมาชิกของสมาคมในปี 2567 นี้อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าคาดการณ์เมื่อช่วงต้นปีที่คาดว่าจะทำได้ 1.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงต่ำกว่าปี 2566 ที่มีมูลค่าตลาดที่ 1.2 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปี 2568 น่าจะดีขึ้นเล็กน้อยหรือมูลค่าตลาดที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงมีมาตรการลดหย่อนภาษีล้านละ 10,000 บาท สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้าน ซึ่งจะสิ้นสุดปีหน้า ตลอดจนมาตรการสินเชื่อซื้อ-ซ่อม-สร้าง ที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงิน 50,000 บาท ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-5 คงที่ 3% ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าแรง และราคาวัสดุก่อสร้าง คาดว่าจะยังทรงตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี
ทำให้ผู้บริโภคที่วางแผนสร้างบ้านเริ่มกลับมาตัดสินใจสร้างบ้านอีกครั้ง แม้ว่าจากการประเมินภาพรวมตลาดไตรมาส 4 ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 10% และทำให้มูลค่าตลาดรับสร้างผ่านสมาชิกของสมาคมในปี 2567 นี้อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าคาดการณ์เมื่อช่วงต้นปีที่คาดว่าจะทำได้ 1.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงต่ำกว่าปี 2566 ที่มีมูลค่าตลาดที่ 1.2 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปี 2568 น่าจะดีขึ้นเล็กน้อยหรือมูลค่าตลาดที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงมีมาตรการลดหย่อนภาษีล้านละ 10,000 บาท สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้าน ซึ่งจะสิ้นสุดปีหน้า ตลอดจนมาตรการสินเชื่อซื้อ-ซ่อม-สร้าง ที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงิน 50,000 บาท ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-5 คงที่ 3% ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าแรง และราคาวัสดุก่อสร้าง คาดว่าจะยังทรงตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ