นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทมีแผนจะขยายตลาดเข้าไปในอีกอย่างน้อย 2-3 เซ็กเมนต์ ด้วยโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยึดมั่นในมาตรฐานสิงห์ เอสเตท ที่ให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องคือ คุณภาพ, ความสุขของครอบครัว และความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน

          ล่าสุดเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 อย่างเป็นทางการ โดยเป็นโครงการในกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยของบริษัท ที่ปัจจุบันมีครอบคลุมทั้งโครงการแนวสูงในกลุ่มคอนโดมิเนียมในแบรนด์ The ESSE และ The EXTRO และ โครงแนวราบระดับ Ultra Luxury อย่าง โครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส รวมไปถึงกลุ่ม Home office ภายใต้แบรนด์ Sentre อีกหนึ่งโครงการใหม่

          รุกตลาดแนวราบ

          พร้อมเดินหน้ารุกตลาดโครงการบ้านแนวราบด้วยแนวคิด Sustainable Diversity ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาบ้านคุณภาพ เพื่อส่งมอบความหลากหลายของประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สอดคล้องไปกับคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ มิติ เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกๆ คนในครอบครัว สร้างความสมดุลของการใช้ชีวิต และเป็นมรดกที่มีคุณค่าที่ยั่งยืน สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

          โดยโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับ Super Luxury มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท บนแปลงที่ดินขนาดใหญ่ของย่านพัฒนาการ จำนวน 28 หลัง บนพื้นที่ 23 ไร่ ในราคา 65-180 ล้านบาท ล่าสุดมียอดจองไปแล้ว 95% รวมถึงยอดโอนในปีที่แล้วกว่า 830 ล้านบาท ในปลายปี 2565 ซึ่งสะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่น และความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อบ้านจากสิงห์ เอสเตท

          นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทยังได้พัฒนาโครงการโฮมออฟฟิศ ภายใต้ชื่อ SENTRE (เซนท์เทอร์) ที่หมายถึงจุดสำคัญ จุดศูนย์กลางโดยวาง Positioning เป็น Premium Luxury Home Office บนทำเลเดียวกัน ให้เป็นสถานที่ทำงานที่เป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Ture Success Begin Here ซึ่งโครงการจะเป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง มีชั้นลอยเพื่อความโปร่งโล่งสบายสร้างความแกรนด์ให้กับทางเข้าอาคาร ขนาดที่ดินเริ่มต้น 42 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 347 ตร.ม.จอดรถได้ถึง 4 คัน สามารถปรับเปลี่ยน Function ให้ตอบโจทย์การทำธุรกิจบนทำเลใจกลางเมือง ถ.พัฒนาการ 32 ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท

          รายได้แตะ 5 พันล.

          ก่อนหน้านี้นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน S เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 2566 ในส่วนของธุรกิจที่อยู่อาศัย คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ที่มาจากยอดโอนของโครงการใหม่เพิ่ม มากขึ้น ทั้งในส่วนของยอดขายรอโอน (Backlog) อาทิ โครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส และโครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซสในส่วนที่เหลือ รวมถึงโครงการที่เตรียมจะเปิดตัวก็คาดว่าจะเริ่มทยอยโอนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566

          โดยคาดว่ารายได้จะกลับมาที่ ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาท หลังปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ประมาณ 6,096 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนในช่วง 3 ปีข้างหน้า อยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านบาท โดยหลักๆ ใช้ในโครงการแนวราบ 75% และโครงการแนวสูง 25%