ระเบียงสุขภาพ แห่งอีอีซีเคลื่อนเศรษฐกิจเวลเนส
วันที่ : 29 มิถุนายน 2565
มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร การให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ผลักดันพื้นที่อีอีซี ให้ก้าวสู่ระเบียงสุขภาพ ภาคตะวันออก (EWC)
"สกพอ." จับมือกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ยกระดับบริการ ทางการแพทย์และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหนุนเศรษฐกิจสุขภาพ พร้อมขับเคลื่อนระเบียงสุขภาพภาคตะวันออก
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมอุตสาหกรรม การแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ครบวงจร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ระหว่าง สกพอ.ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร การให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ผลักดันพื้นที่อีอีซี ให้ก้าวสู่ระเบียงสุขภาพ ภาคตะวันออก (EWC) และตอบโจทย์การเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ ให้มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะนี้ได้กำหนดเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษด้านการแพทย์ 2 แห่ง ได้แก่
1.ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา (EECmd) สู่การเป็น "Medical Valley" โดยจะมีโครงการสำคัญ อาทิ สถาบันวิจัยการแพทย์ชั้นสูง โรงพยาบาลดิจิทัล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
2.ศูนย์การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (EECg) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบและถอดรหัสพันธุกรรม สร้าง Big Data ห้องสมุดดีเอ็นเอ รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า สกพอ. จะร่วมมือกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมทั้งประสาน ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพครบวงจร โดยจะทำการศึกษาความเป็นไปได้ ร่วมกันด้วยการใช้ข้อมูล ผลการศึกษา รายงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาระเบียงสุขภาพ ภาคตะวันออก อย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งดูดกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มลูกค้า เป้าหมายอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร สามารถตอบโจทย์การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และการดำเนินชีวิตวิถีใหม่
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมอุตสาหกรรม การแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ครบวงจร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ระหว่าง สกพอ.ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร การให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ผลักดันพื้นที่อีอีซี ให้ก้าวสู่ระเบียงสุขภาพ ภาคตะวันออก (EWC) และตอบโจทย์การเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ ให้มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะนี้ได้กำหนดเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษด้านการแพทย์ 2 แห่ง ได้แก่
1.ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา (EECmd) สู่การเป็น "Medical Valley" โดยจะมีโครงการสำคัญ อาทิ สถาบันวิจัยการแพทย์ชั้นสูง โรงพยาบาลดิจิทัล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
2.ศูนย์การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (EECg) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบและถอดรหัสพันธุกรรม สร้าง Big Data ห้องสมุดดีเอ็นเอ รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า สกพอ. จะร่วมมือกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมทั้งประสาน ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพครบวงจร โดยจะทำการศึกษาความเป็นไปได้ ร่วมกันด้วยการใช้ข้อมูล ผลการศึกษา รายงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาระเบียงสุขภาพ ภาคตะวันออก อย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งดูดกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มลูกค้า เป้าหมายอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร สามารถตอบโจทย์การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และการดำเนินชีวิตวิถีใหม่
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ