"ศักดิ์สยาม" เร่งรัดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกในปีนี้ ย้ำต้องคำนึงถึงการเชื่อมสายสีส้มตะวันออก มอบหมาย รฟม. ยึดกฎหมาย-มติครม.เคร่งครัด ด้านคณะกรรมการมาตรา 36 เตรียมประชุมร่างทีโออาร์ทันทีที่ได้ผู้สังเกตการณ์ข้อตกลง คุณธรรม นักวิเคราะห์ชี้เป้า SCC, CK, STEC, SEAFCO, PYLON รับอานิสงส์

          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง ความคืบหน้าการจัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รอบใหม่ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการโดยยึดข้อกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า คณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เตรียมจัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการเปิดประมูล หลังจากล่าช้ากว่ากำหนดการมากว่า 9 เดือน

          "ได้เร่งรัดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพราะหากไม่สามารถเปิดประมูลได้ทันจะกระทบต่อการเปิดให้บริการเดินรถของสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายในปี 2568 เนื่องจากงาน O&M อยู่ในโครงการเดียวกัน แต่ก็ต้องดูข้อกฎหมายให้ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอีก คาดว่า คณะกรรมการมาตรา 36 จะตระหนักและพิจารณาดำเนินการอย่างรวดเร็ว รอบคอบ"

          แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกตาม มาตรา 36 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กล่าวว่า จะสามารถจัดจัดประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ชุดใหม่ ที่มี นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) วิศวกรรมและก่อสร้างเป็นประธานเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ - เงื่อนไขทีโออาร์ที่จะใช้ในการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบใหม่ได้เร็วๆ นี้

          เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) ได้จัดประชุมและเห็นชอบหลักการแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งประกาศ สคร. สำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) มาใช้กับโครงการร่วมลงทุนที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. การร่วมลงทุน ปี 2562) ในขั้นตอนของการคัดเลือกเอกชนแล้ว รวมถึงได้เร่งรัดโครงการในกลุ่มที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน ภายใต้แผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 - 2570 ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาและแล้วเสร็จตามกำหนด

          รับเหมาวัสดุก่อสร้างรับอานิสงส์

          นางสาววิชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าโครงการขนาดใหญ่ที่ผู้ประกอบการ จะทยอยเข้าพื้นที่ เพื่อเริ่มงานก่อสร้างได้ภายใน ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งต้องประมูลให้ได้ภายในปี 2565 นี้เพื่อให้ผู้ชนะการประมูลสามารถเข้าเริ่มดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกได้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการรถไฟทางคู่ 2 สายทาง, โครงการสนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินภาคตะวันออก

          โดยมองว่าผู้รับเหมาปรับกลยุทธ์เข้าประมูลงานผ่านบริษัทกิจการร่วมค้า (JV) ถือเป็นการสร้างความได้เปรียบด้านความพร้อม และศักยภาพด้านงานก่อสร้าง รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงาน และรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้ อีกทั้งลดบรรยากาศการแข่งขันลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

          จึงแนะนำ "ซื้อสะสม" CK ราคาเหมาะสม 27 บาท, STEC ราคาเหมาะสม 21.50 บาท และแนะนำ "ซื้อ" SCC ราคาเหมาะสม 510 บาท รวมถึง "ซื้อเก็งกาไร" SEAFCO ราคาเหมาะสม 5.34 บาท และ PYLON ราคาเหมาะสม 4.90 บาท