นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 กระทรวงมีแนวทางผลักดันในหลายๆ ด้าน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงพลังงานของประเทศ รวมถึงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ หนึ่งในนั้นคือ แผนขับเคลื่อนการลงทุนโครงการประกอบกิจการปิโตรเคมีระยะ 4 ใน พื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำหนดทิศทางการขยายการลงทุนปิโตรเคมีกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด เพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในปี 2565-2569 กว่า 2-3 แสนล้านบาท

          ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมการลงทุนต่อเนื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานรัฐวิสาหกิจและ บริษัทในเครือมูลค่ากว่า 143,075 ล้านบาท ทั้งการส่งเสริมโครง สร้างราคาน้ำมันและสัดส่วนการผสมเชื้อเพลิงชีวภาพให้มีความเหมาะสม และส่งเสริมการลงทุนสถานีชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี ชาร์จจิ้ง สเตชั่น) และยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รวมถึงขับเคลื่อนการลงทุนโครงการประกอบกิจการปิโตรเลียมซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศมูลค่ากว่า 44,300 ล้านบาท

          ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมการลงทุนและบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กับธนาคารกรุงไทย, ธ.ก.ส., เอสเอ็มอีแบงก์ และทิพยประกันภัย ว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นกลไกสำคัญส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิต ภัณฑ์หรือบริการธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ การพัฒนานวัตกรรมใหม่ด้านการเงิน ที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกระดับในพื้นที่อีอีซี