ทุกแบงก์พักหนี้ให้ลูกค้า 2 เดือน
Loading

ทุกแบงก์พักหนี้ให้ลูกค้า 2 เดือน

วันที่ : 17 กรกฎาคม 2564
ธปท.วอนนอนแบงก์ช่วยเหลือลูกหนี้ไปพร้อมกัน
          อาคม รวมพลังแบงก์รัฐแบงก์พาณิชย์แบงก์นอก มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้เอสเอ็มอีและรายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือน ใน 10 จังหวัดที่ถูกล็อกดาวน์ หรืออยู่นอกพื้นที่ แต่ต้องโดนคำสั่งรัฐให้ปิดกิจการ ช่วยลดภาระช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 มีความไม่แน่นอนสูงด้าน ธปท.ขอนอนแบงก์ช่วยอีกแรง

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ติดตามผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐอย่างต่อเนื่องและได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันมาตรการเพื่อลดภาระหนี้ของลูกหนี้ในช่วงที่มีการระบาดระลอกใหม่ โดยภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีและลูกหนี้รายย่อย

          ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามนโยบายกระทรวงการคลังมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 ตามความสมัครใจแต่สถานการณ์การระบาดมีความรุนแรงมากขึ้นจึง ได้ยกระดับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้เอสเอ็มอี และรายย่อยเป็นเวลา 2 เดือน ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั่วประเทศ ทั้งลูกหนี้ที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัด และนอกพื้นที่ควบคุมแต่ต้องปิดกิจการจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ

          โดยจะเริ่มต้นการพักชำระหนี้งวดแรกตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือน ก.ค.2564หรือเดือน ส.ค.เป็นต้นไป แล้วแต่กรณีและเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ลูกหนี้เพิ่มขึ้นในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง สถาบันการเงินที่เข้าร่วมมาตรการจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมที่ค้างอยู่ทันที เมื่อหมดระยะเวลาพักชำระหนี้ ลูกหนี้ที่สนใจติดต่อสถาบันการเงินผ่านช่องทางที่มีระยะห่างทางสังคมเพื่อลดโอกาสการระบาดของโควิด-19 เช่นแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ศูนย์บริการลูกค้าของสถาบันการเงิน เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2564 เป็นต้นไป

          นายอาคม กล่าวต่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ ก็ได้ออกมาตรการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้เอสเอ็มอีและรายย่อยเป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อมในลักษณะเดียวกัน ส่วนลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม ซึ่งได้แก่ลูกหนี้ที่ยังเปิดกิจการได้ แต่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ ขอให้มีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้

          กระทรวงการคลังจะติดตามผลการดำเนินงาน และประเมินประสิทธิภาพของมาตรการอย่างใกล้ชิด และพร้อมออกมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกหนี้เสถียรภาพระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจาก ธปท.ว่าลูกหนี้ส่วนของธนาคารพาณิชย์ที่ต้องปิดกิจการและต้องการรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมตามแนวทางข้างต้น สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2564 โดยหากลูกหนี้ สามารถให้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนถึงผลกระทบของกิจการหรือการจ้างงานจะทำให้การพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเจ้าหนี้ทำได้อย่างรวดเร็ว โดย ธปท.ขอย้ำว่าการพักชำระหนี้ภายใต้มาตรการนี้ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือขั้นต่ำ ซึ่งลูกหนี้สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ และสถาบันการเงินสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงได้มากขึ้นตามความเหมาะสม

          ขณะเดียวกัน ธปท.ได้ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (non bank) ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุดดังนั้นขอให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหารีบติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินที่ใช้บริการอยู่เพื่อรับความช่วยเหลือ และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินโดยตรง หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร 1213

          อย่างไรก็ตาม การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ จึงควรชำระหนี้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอยู่ก่อนหน้า ที่ควรดำเนินการต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืนกว่า.
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ