'พิชัย' เร่งฟื้นภาคอสังหาฯ สั่งธอส. หาแหล่งเงินกู้ดบ.ต่ำ / ให้ลูกค้ายืดชำระหนี้
Loading

'พิชัย' เร่งฟื้นภาคอสังหาฯ สั่งธอส. หาแหล่งเงินกู้ดบ.ต่ำ / ให้ลูกค้ายืดชำระหนี้

วันที่ : 2 กรกฎาคม 2567
พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำรองรับนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ปล่อยกู้บ้านได้ยาวขึ้นและดอกเบี้ยถูก พร้อมสั่งยืดเวลาการผ่อนชำระหนี้ให้ลูกหนี้ทุกกลุ่ม
    
      นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเกิดปัญหา ประชาชนมีรายได้น้อยมาหลายปี ประกอบกับรายจ่ายคงที่ ต้องผ่อนค่าบ้านและค่ารถ การแก้ปัญหาจะประกอบด้วย 2 ส่วน 1. การแก้ปัญหาระยะสั้น ต้องแก้ไขภายใน 1-2 ปีนี้ คือต้องให้หนี้เท่าเดิมและภาระการผ่อนชำระน้อยลง โดยให้มีการผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น การกู้บ้านที่อยู่อาศัยควรให้กู้ได้เรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด เช่นในต่างประเทศ

    โดยได้มอบแนวทางให้ ธอส.จะดูคุณสมบัติลูกหนี้ที่เข้าข่าย โดยยืดระยะเวลาผ่อนชำระออกไปอีก 10 ปี จากบุคคลทั่วไป ปกติได้ถึง 70 ปี เปลี่ยนเป็น 80 ปี ส่วนลูกค้าผู้กู้รับราชการผ่อนได้ถึง 85 ปี เป็นมาตรการระยะสั้น ลดหนี้ทั้งระยะเวลาและเงื่อนไขการจ่าย ให้ยืดหยุ่นขึ้นและสามารถให้ผู้กู้สามารถพักอาศัยอยู่ได้ต่อไป เมื่อภาระหนี้ลด จะส่งผลให้เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่มขึ้น มีกลไกของศาลยุติธรรมเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ มีคนสมัครมาแล้ว 40,000 ราย

     ส่วนมาตรการระยะยาว ให้ ธอส.พิจารณาแหล่งเงินกู้ระยะยาว ต้องดูจังหวะการบริหารดอกเบี้ยในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ส่วนเรื่องการปลดล็อกเครดิตบูโร ตามมาตรา 21 นั้น กำลังดำเนินการอยู่ จะใช้ 2 วิธี โดยผ่านคณะกรรมการ1 ชุด และอีกชุดผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

    ด้าน นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ได้เปิดมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ เข้าเจรจาขอประนอมหนี้กับเจ้าหน้าที่ ธอส. ครบจบในวันเดียว แบบ One Stop Service ลดขั้นตอนกระบวนการทางศาล ทำให้ลูกค้าสามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป

    ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ ธอส.กระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง ปล่อยสินเชื่อไม่น้อยกว่า 170,000 ล้านบาท ครอบคลุมลูกค้าผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ไปจนถึงกลุ่มที่มีรายได้สูงระดับวงเงินบ้าน 3 ล้านบาท, 7 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท โดย ธอส. จะออกโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนให้บ้านในกลุ่มดังกล่าวสามารถขายได้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย

     สำหรับการปล่อยสินเชื่อผ่อนใหม่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปี 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ 90,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีการทำนิติกรรมแล้วประมาณ 83,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งหลังของปีนี้จะต้องดำเนินการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ได้มากกว่าสองเท่าอยู่ที่ประมาณ 170,000 ล้านบาท
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ