อาคม สั่งดันตลาดทุนดิจิทัล
Loading

อาคม สั่งดันตลาดทุนดิจิทัล

วันที่ : 26 มีนาคม 2564
หวังโชว์ศักยภาพเวทีเอเปก กระตุ้นคนไทยออมเงินเพิ่ม
  
          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยในงานปาฐกถาพิเศษ การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล ว่า ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งจัดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนแบบเต็มรูปแบบให้เสร็จภายในปี 65 เพื่อนำไปจัดแสดงให้ทันการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า โดยจะต้องพัฒนากระบวนการดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งการออกหลักทรัพย์ การซื้อขายหลักทรัพย์ การชำระเงิน ที่เป็นดิจิทัลทั้งหมด

          "หากทำสำเร็จไทยจะเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ที่ทำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลตลาดทุนเสร็จ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการระดมทุน และการส่งเสริมการออมของคนไทยได้มาก โดยเฉพาะประชาชนรายย่อย หรือคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็จะสามารถเข้ามาซื้อหุ้นกู้เอกชน ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือกองทุนรวม ต่าง ๆ ได้เองผ่านช่องทางดิจิทัล และสามารถเลือกออมเงินได้ทีละน้อย ๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อทีละมาก ๆ ด้วย โดยหากทำโครงสร้างพื้นฐานเสร็จจะเริ่มเปิดให้หุ้นกู้เอกชนเข้ามาดำเนินการได้ก่อน ตามด้วยตราสารหนี้จากภาครัฐ และกองทุนรวมต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ให้นำการจำหน่ายพันธบัตรหรือตราสาร อื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย"

          นายอาคม กล่าวว่า ยังได้ฝาก 5 การบ้านให้ ก.ล.ต. เร่งทำ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกให้กิจการที่ประสบปัญหาโควิด-19 ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ การสร้างความเข้าถึงตลาดทุนทั้งการลงทุนและการระดมทุน เพื่อช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุน การขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนไปสู่กิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.ต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สอดรับกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง เช่น การดูแลเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยในการบริการดิจิทัล การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ดิจิทัลดิสรัปชั่นเกิดขึ้นทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเงินและตลาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง โควิด-19 ระบาดทั่วโลกในปี 63 ยิ่งเป็นตัวเร่งให้องค์กรใช้กระบวนการทำงานต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีแทนการทำงานรูปแบบเดิมเพื่อการพัฒนาการทำงาน เช่นเดียวกับ ก.ล.ต.ที่นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ เอไอ คลาวด์เซอร์วิส บล็อกเชน รวมทั้งเทคโนโลยีรูปแบบอื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาปรับใช้เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นตลาดดิจิทัลที่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

          นอกจากนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อเพิ่ม ศักยภาพตลาดทุน ยกระดับการกำกับ ดูแล และพลิกโฉมตลาดทุนไทยไปสู่ตลาดทุนดิจิทัล ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในตลาดทุนให้อยู่บนระบบที่มีมาตรฐานเดียวกันทั้งอุตสาหกรรม และปรับเปลี่ยนกระบวนการในตลาดทุนให้เป็นดิจิทัล 100% ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อช่วยลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจ สร้างความสะดวกและลดต้นทุนในการเข้า ถึงตลาดทุนของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุน รวมทั้งช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจและตลาดทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ