คลังพร้อมทุ่ม4แสนล.ฟื้นศก.
Loading

คลังพร้อมทุ่ม4แสนล.ฟื้นศก.

วันที่ : 26 พฤศจิกายน 2563
รัฐบาล พร้อมทุ่มงบ 4 เเสนล้านบาท ฟื้นศก.ประเทศ
          จี้แบงก์ชาติคุมเงินบาท/กรุงศรีคาดจีดีพี63ติดลบ6.4%

           "อาคม" ยันรัฐบาลพร้อมทุ่ม 4 แสนล้านบาทฟื้นเศรษฐกิจประเทศ จับมือแบงก์ชาติคุมบาทแข็ง จี้ศุลกากรเปลี่ยนบทบาท ด้านกรุงศรีประเมินจีดีพีติดลบ -6.4%

          นายอาคม เติมพิทยาไพ สิฐ รมว.การคลัง กล่าวปาถกฐา ในงานสัมมนา Bangkok Post International Forum 2020 หัว ข้อ Beyond Post Pandemic : A Decade of Challenges from 2021" ว่า นโยบายใน การพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ภายหลังการระบาดของโควิด-19 จะเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลมีงบประมาณ 4 แสน ล้านบาท สำหรับการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท โดยจะ เน้นในโครงการที่ส่งเสริมเศรษฐกิจ ชุมชน การลงทุนในโครงการอีอีซี รวมถึงการฟื้นฟูภาคการ ท่องเที่ยวและการบริโภคภาย ในประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้อย่างมีประ สิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีการอนุมัติแผนการลงทุนต่างๆ รวมแล้ว กว่า 2.2 แสนล้านบาท โดยเชื่อว่าโครงการทั้งหมดจะไม่ได้แค่ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตและเข้มแข็ง

          สำหรับสถานการณ์เงิน บาทที่แข็งค่าในขณะนี้ กระ ทรวงการคลังและธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) จะทำงานอย่างสอดประสานกันในการดูแลสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นดังกล่าว ซึ่งถือเป็น หน้าที่หลักของ ธปท.ในการดำเนินการเรื่องนี้ และคาดว่าหลังจากนี้อาจจะต้องมีมาตร การบางอย่างออกมา แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการออกมาตรการเพื่อทำให้เงินบาทไม่แข็งค่ามากเกินไปแล้วก็ตาม

          พร้อมกันนี้นายอาคมยังกล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมศุลกากรว่า ได้สั่งการให้เร่งดำเนินภารกิจ สำคัญ 4 เรื่อง คือ 1.ให้เปลี่ยน บทบาทจากกรมที่จัดเก็บภาษี เป็นกรมที่เน้นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก 2.เร่งดำเนิน เรื่อง National Single Window (NSW) ซึ่งเป็นระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานรัฐและภาคธุรกิจสำหรับการนำเข้าและส่งออก 3.การเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปราม และ 4.สนับสนุนการค้าชายแดน

          นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของ กรม ในปีงบประมาณ 2564 ยังอยู่ที่ 1.04 แสนล้านบาท ตามที่เอกสารงบประมาณกำหนด ซึ่งเป็นเป้าหมายการจัดเก็บที่จัดทำขึ้นโดยยังไม่รวมผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และปัจจัยที่มีผลต่อการจัดเก็บต่างๆ ถือว่ายังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามสภาพเศรษฐกิจ โดยหลังจากนี้จะมีการปรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง

          ด้านนายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัด การใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วิจัยกรุงศรีได้ปรับเพิ่มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2563 ดีขึ้น เป็น -6.4% จากเดิมคาดว่า -10.3% หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการใช้จ่ายของภาครัฐเร่งตัวขึ้น และภาคการส่งออกดีกว่าคาด โดยคาดว่าส่งออกทั้งปีจะดีขึ้นเป็น -7.5% จากเดิมคาดว่าจะติดลบสูงถึง -12.5% ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะเติบโตได้ 3.3% โดยจะกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 จากฐานต่ำปีก่อนหน้า
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ