เรียลแอสเสท เบรก2โครงการพิษโควิดชะลอแผนเข้าตลาด
Loading

เรียลแอสเสท เบรก2โครงการพิษโควิดชะลอแผนเข้าตลาด

วันที่ : 7 กรกฎาคม 2563
เรียลแอสเสท ชะลอลงทุน แนวราบ2 โครงการ
          เรียลแอสเสท เผยแผนครึ่งปีหลังชะลอลงทุน แนวราบ2 โครงการ เบรกแผนเข้าตลาดไม่มีกำหนด หลังเผชิญพิษ โควิด เศรษฐกิจไม่เอื้อ ระบุภาพรวม อสังหาฯปี 63 วิกฤติสุดรอบ 10 ปีคาดใช้เวลา 2 ปีฟื้นตัว

          นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายเป็นลำดับ แต่ผลกระทบกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น คาดว่าจะยังคงยืดเยื้อต่อไป แม้ว่า จะมีสัญญาณบวกจากยอดขาย และยอดเข้าชมโครงการที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ในระยะยาวคงต้องลุ้นกันต่อกับสถานการณ์โควิด-19ว่าจะกลับมา ระบาดในระลอกที่ 2 หรือไม่ หลัง คลายล็อกดาวน์

          "ในสภาวการณ์เช่นนี้จึงจำเป็น ที่ต้องเลื่อนเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการคือโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ วีรัณยา จำนวน 150 ยูนิต รวมทั้ง 2 โครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮม แบรนด์สตอรี่ส์ ย่านลำลูกกา คลอง5 ออกไปก่อน เพื่อให้เหมาะกับดีมานด์และ กำลังซื้อในแต่ละทำเล ส่วนโครงการทาวน์โฮมบริเวณสุขาภิบาล 2 ภายใต้แบรนด์ เพล็กซ์ จำนวน 227 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท กำลังจะเปิดพรีเซล 11 มิ.ย.นี้ เพื่อรองรับกับความต้องการผู้ที่ต้องการบ้านแนวราบมากขึ้นหลังจากที่เกิดโควิด-19"

          สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "เดอะ สเตจ"มูลค่า 4,000 ล้านบาทในย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุน อสังหาฯระดับกลาง จากเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการเปิดตัว คาดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 27 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.

          ส่วนผลการดำเนินการปีนี้ ประเมินว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยจะปรับตัวลดลง 50% จากยอดขาย 4,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ชะลอแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างไม่มีกำหนดไปก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการระดมทุน

          นายบดินทร์ธร ยังคาดว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯปีนี้ตัวเลข ยอดขายและยอดการเปิดตัว โครงการลดลงมากที่สุดในรอบ10 ปี จากปกติที่ยอดการเปิดตัวเฉลี่ย ปีละ 8-9 หมื่นยูนิต แต่ในปีนี้ คาดการณ์ว่า ลดลงเหลือแค่ 5 หมื่นยูนิต ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก โควิด-19 คาดว่าต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว 2-3 ปีกว่าตลาดจะกลับมา ขณะเดียวกันรูปแบบการทำตลาดต้องปรับเปลี่ยนไปให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย อาทิ การให้ความสำคัญกับ เรื่องสุขภาพ ความปลอดภัยในโครงการมากขึ้นนอกเหนือจาก ฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ต้องมีอยู่แล้ว

          "แนวทางการทำตลาดในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กรจำเป็นที่ต้อง เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นพร้อมกับ การสร้างการจดจำแบรนด์ เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ในกลุ่มลูกค้าทั้งวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยผ่าน ช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่เข้าถึง กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงาน ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสื่อสาร ไปยังคนใกล้ชิดญาติ พี่น้องเพื่อนฝูงมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และ ความคุ้นเคยมากขึ้น การทำงาน ในรูปแบบดังกล่าช่วยทำให้ได้ ไอเดียที่แปลกใหม่พร้อมกับการสร้างแบรนด์ไปด้วย"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ