นางอรนุช อิติโกศิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2567  จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในปี 2567 เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับในปีนี้มีปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งดอกเบี้ยที่ลดลงและบรรยากาศของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

    สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งในเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้เพิ่มความน่าสนใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายและมากขึ้น มีภาระในการผ่อนน้อยลง ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

    ขณะที่กลุ่มนักลงทุนเห็นโอกาสในการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการลงทุนระยะยาว เช่น การซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากการผ่อนชำระมีต้นทุนต่ำ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการให้เช่ากลุ่ม Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงยังคงมีอยู่ รวมถึงการกลับมาของกลุ่มนักลงทุนที่อาจเร่งการตัดสินใจซื้อช่วงที่เศรษฐกิจดี

    “หากมองภาพให้เห็นชัด ๆ จะเห็นว่ากระแสเงินสดสุทธิ (Net Cash Flow) หลังหักค่าผ่อนธนาคารเป็นบวก หากลองดูห้อง Studio เป็นตัวอย่าง ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ผ่อนธนาคารเดือนละประมาณ 5,000-6,000 บาท ในขณะที่ปล่อยเช่าได้เฉลี่ย 8,200 บาทต่อเดือน เกิดเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนได้กว่า 2,200-3,200 บาทต่อเดือน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการลงทุนและหากยังผ่อนชำระกับธนาคารตามปกติ จะช่วยลดระยะเวลาการผ่อนชำระลงได้มาก และในอนาคตมีปัจจัยดอกเบี้ยที่แนวโน้มเป็นขาลง ซึ่งจะทำให้อัตราการผ่อนต่อเดือนลดลงอีก” นางอรนุช กล่าว

    นางอรนุช กล่าวอีกว่า ด้วยความต้องการที่ยังมีอยู่ในย่านคูคต–ลำลูกกา-สายไหม บริษัทจึงได้วางแผนจะเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับ Demand ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนย่านคูคตให้เป็น “ย่านคูลโคตร” ที่เป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ และที่อยู่อาศัยในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนืออย่างแท้จริง

    โดยในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้เริ่มส่งมอบโครงการ นิว คอร์ คูคต สเตชัน ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดิน 11 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,192 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 90% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้งหมดภายในไตรมาส 1/2568 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้นจำนวน 6 อาคาร มียูนิตรวม 1,206 ยูนิต

    ทั้งนี้ โครงการ Nue Core Khu Khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน) เป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ที่พัฒนาบนที่ดินขนาด 51 ไร่ ติดรถไฟฟ้าสถานีคูคต ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง NOBLE กับกลุ่มธนูลักษณ์ (TNLA) โดยจุดเด่นของแบรนด์ Nue คือห้องหน้ากว้าง ตกแต่งครบแบบ Fully Furnished ตอบโจทย์ทั้งอาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุน