ธุรกิจไทย โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ หมวดการลงทุนสินทรัพย์มูลค่าสูง ระยะยาว ทั้งยังผูกโยงจำเป็นต่อความมั่นคงของชีวิต เผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ จากห่วงโซ่เศรษฐกิจชะงักหยุดลง บรรยากาศการซื้อ-ขายเรียลดีมานด์ แม้อยู่จริงก็ไม่เต็มใจ เพราะพิษไวรัสโควิด-19 ลุกลามส่อแววฉุดไม่อยู่ ขณะหลายฝ่ายคาดการณ์ ผลกระทบอาจลากยาวถึงช่วงครึ่งหลังปี 2563 ซึ่งนับเป็นไทม์ไลน์สำคัญของธุรกิจอสังหาฯ ในการขายและสร้างยอดใหม่ ตอกย้ำมาตรการรัฐ Social Distancing ตีวงจำกัดช่องทางการขายให้แคบลง บริษัทอสังหาฯน้อยใหญ่ เลี่ยงลดเสี่ยงการแพร่เชื้อ โดยเลือกปิดสำนักงานขายโครงการต่างๆ ลงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม "ทุกวิกฤติ เป็นโอกาส" ท่ามกลางอิทธิพลของช่องทางออนไลน์ เทคโนโลยีสนับสนุนมีมาก เกิดภาพอสังหาฯไทยปรับตัวเร็ว สร้างแพลตฟอร์มการขายแบบใหม่ เดินเกมต่อยอด ยุคลูกค้าชีวิตติดเน็ต หวังรองรับอำนวยความสะดวกลูกค้าเก่า-ใหม่ทุกด้าน พบการถ่ายทอดสด หรือ เฟซบุ๊ก Live ชมโครงการมาแรง เช่นเดียวกับการกดจอง จ่ายเงินผ่านแอพ

          เริ่มที่เสือปืนไว บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) รุกกลยุทธ์การตลาดผ่านรูปแบบการขายและบริการออนไลน์เร็วแรงสุด โดยผู้บริหารระบุว่า นอกจากปรับเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคดิจิทัลแล้ว ภาวะสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน การเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เปิดช่องให้ลูกค้าเลือกซื้อยูนิตที่ชอบและชมโครงการได้เสมือนมาที่โครงการจริงนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยได้นำร่องแผนงานดังกล่าว ผ่านวิธี Live Chat หรือ VDO Call สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการซื้อในช่วงนี้ ตลอดช่วงเวลาทำการของแต่ละวัน และจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ติดต่อกลับเพื่อประสานหลังการจองตลอด 24 ชั่วโมง รวม 70 ยูนิต ใน 10 โครงการ 10 ทำเล ส่วนการชำระเงินจอง เปิดช่องผ่านบัตรเครดิต

          ด้านนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ประเมินว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 จะยังไม่สิ้นสุดในระยะใกล้ ทำให้ยากที่เศรษฐกิจไทยจะพลิกฟื้นกลับมาในเวลารวดเร็ว บริษัทจึงปรับตัว เตรียมแผนรับมือทุกด้าน เพื่อพยุงธุรกิจให้รอดพ้นจากสถานการณ์ โดยเฉพาะการส่งเสริมการขาย ผ่านช่องทางเพิ่มเติมในออนไลน์ทุกช่องทาง สำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการซื้อโครงการของบริษัทในช่วงนี้ พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุด 1 แสนบาท

          ขณะค่ายเอพี สร้างปรากฏการณ์แถลงข่าว เปิดตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ "ไลฟ์ ลาดพร้าว" ติดสถานีรถไฟฟ้า ห้าแยกลาดพร้าว มูลค่า 8 พันล้านบาท ในรูปแบบไลฟ์สดครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊ก แฟนเพจ AP Thai โดยนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤติไวรัสที่เกิดขึ้น บริษัทได้ตั้งทีมพิเศษเฝ้าติดตามผลกระทบอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งรับใน 3 ด้านสำคัญ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของลูกค้า และแผนเดินหน้าธุรกิจ โดยจะให้บริษัท บางกอก ซิตี้สมาร์ทฯ หรือ บีซี ซึ่งเป็นบริษัทลูกด้านการขาย จัดทำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการขายที่เหมาะกับสถานการณ์มารองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจจองซื้อโครงการต่างๆ ผ่านรูปแบบ ไลฟ์ทัวร์ ทั้งช่องทางเฟซบุ๊กและไลน์ สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเข้ามาดู ณ สำนักงานขายด้วยตนเอง เพราะกังวล เรื่องการแพร่ระบาดของโรค รวมไปถึงการไลฟ์ชมตรวจรับห้องของลูกค้า ที่ถึงกำหนดนัดโอนในโครงการแล้วเสร็จด้วยเช่นกัน ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งใหม่และเก่า พร้อมจะให้ความสำคัญเรื่องสถานะด้านการเงินของบริษัทในช่วงนี้ ด้วยกลยุทธ์ควบคุมการเบิกจ่ายที่จำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายว่าจะสามารถฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ ทั้งนี้เชื่อว่าภาคที่อยู่อาศัยยังมีความจำเป็นไปต่อได้แม้วิกฤติ เพราะเปรียบเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของชีวิต

          "การขายและการโอน ยังดำเนินต่อไปได้ ผ่านรูปแบบสตรีมมิ่ง ดูโครงการใหม่ ตรวจรับห้องจากที่บ้าน เพื่อเลี่ยงการเดินทางของลูกค้า ซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบที่สอดคล้องกับแผนดำเนินธุรกิจของหลายๆบริษัท ณ ขณะนี้ หลังจากคาดอสังหาฯจะได้รับผลกระทบระยะหนึ่ง จากแนวโน้มจีดีพีที่คาดการณ์ลดต่ำลงอีก"

          ส่วนออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จับมือจัดแคมเปญร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ดัง ลาซาด้า ภายใต้ชื่อ "ดีลนี้ พี่เคาะให้" สำหรับโครงการคอนโดฯพร้อมอยู่ ทั้งในกรุงเทพฯ และศรีราชา กว่า 15 โครงการ เช่น โครงการนอตติ้ง ฮิลล์ จตุจักร อินเตอร์เชนจ์, โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง และ โครงการนอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง ศรีราชา เปิดช่องรับสิทธิ์จองในราคา 1,999 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 999 บาทต่อเดือน เพียงกดจองออนไลน์ผ่าน ลาซาด้า แอพพลิเคชัน ก่อนรอเจ้าหน้าที่โครงการยืนยัน เพื่อทำสัญญาภายใน 7 วัน กำหนดช่วงเวลาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม-14 เมษายน 2563

          ขณะที่นายปัฐวิน วงศ์เสถียร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวหลังจากประกาศปิดทำการสำนักงานขายเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 23-27 มีนาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมว่า บริษัทตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทยที่ทวีความรุนแรงขึ้น และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายภาครัฐเรื่อง Social Distancing บริษัทจึงได้ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านรูปแบบการขายและบริการออนไลน์ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถติดต่อซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ภายใต้แคมเปญ "Online Booking กด จอง ง่าย ได้ทุกวัน" ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ขณะเดียวกันยังให้ลูกค้าสามารถโทร.นัดหมายเพื่อเข้าเยี่ยมชมโครงการ รวมไปถึงการขอรับบริการพาชมโครงการผ่านทางวิดีโอคอล เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ

          "เพื่อพยุงธุรกิจให้รอดจากสถานการณ์โดยเฉพาะการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางเพิ่มเติมในออนไลน์"