BEMผู้โดยสารทั้งปีโต20%เปิดส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน
วันที่ : 25 กุมภาพันธ์ 2563
BEM มั่นใจทั้งปี 2563 ผู้โดยสารยังโตตามเป้า 20% หลังเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ส่วนที่ 2 หนุนจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่เส้นทางหลัก ในวันทำงานแตะ 5 แสนคนต่อวัน เล็งนำรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการเพิ่มอีก 20 ขบวน ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนทรงตัวที่ 1.1 ล้านคนต่อวัน ด้านนักวิเคราะห์คาดกำไรปกติทั้งปี 2562 เพิ่มขึ้น 9.69% และโตถึง 35% ในปี 2563 แนะ "ซื้อ" เป้า 12.50 บาท
BEM มั่นใจทั้งปี 2563 ผู้โดยสารยังโตตามเป้า 20% หลังเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ส่วนที่ 2 หนุนจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่เส้นทางหลัก ในวันทำงานแตะ 5 แสนคนต่อวัน เล็งนำรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการเพิ่มอีก 20 ขบวน ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนทรงตัวที่ 1.1 ล้านคนต่อวัน ด้านนักวิเคราะห์คาดกำไรปกติทั้งปี 2562 เพิ่มขึ้น 9.69% และโตถึง 35% ในปี 2563 แนะ "ซื้อ" เป้า 12.50 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า บริษัทยังคงคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารทั้งปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัว 17-20% ตามปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 บางซื่อ-ท่าพระ ในเดือนมีนาคม 2563 ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BEM ครบวงจร
จำนวนผู้โดยสารเพิ่ม
สำหรับการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 เพิ่มอีก 4 สถานี คือ สถานีบางยี่ขัน สถานีบางขุนนนท์ สถานีแยกไฟฉาย สถานีจรัญสนิทวงศ์ 13 ไปบรรจบกับสถานีท่าพระ นั้น บริษัทคาดหวังผู้โดยสาร ณ สิ้นปี 2563 ที่ 1 แสนคนต่อวัน ใกล้เคียงกับส่วนต่อขยายที่ 1 เพราะมีสถานีสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช-บางขุนนนท์-พรานนก ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของฝั่งธน อีกทั้งทาง BEM จะนำรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการเพิ่มอีก 20 ขบวน ส่งผลให้บริษัทมีรถให้บริการในสายสีน้ำเงินทั้งสิ้น 54 ขบวน อัตราการให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองให้บริการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 ถือว่าช่วยให้ผู้โดยสารในเส้นทางหลักเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราเห็นจำนวนผู้โดยสารช่วงชั่วโมงเร่งด่วนในวันทำงานเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนคนต่อวัน และเฉลี่ยทั้งสัปดาห์จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ระหว่าง 6 หมื่นคน 1 แสนคนต่อวัน และเมื่อเรานำรถเข้ามาให้บริการครบ 54 ขบวนชั่วโมงเร่งด่วนเวลารอจะเหลือ 2-3 นาทีต่อขบวน ความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"
ธุรกิจทางด่วนทรงตัว
สำหรับธุรกิจทางด่วนนั้น จำนวนผู้ใช้ทางด่วนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 1-2% เนื่องจากการจราจรในเขตเมืองติดขัดจากการก่อสร้างหลายเส้นทาง ดังนั้นอัตราการใช้ทางด่วนนอกเมืองโอกาสเติบโตมากกว่าทางด่วนในเมือง ปัจจุบันมีปริมาณจราจร 1.1 ล้านคันต่อวัน
ทั้งนี้คาดการณ์รายได้สำหรับธุรกิจทางด่วนน่าจะทรงตัวต่อเนื่องโดยเฉลี่ยธุรกิจนี้จะสร้างรายได้เฉลี่ยปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตามปริมาณจราจรบนทางด่วนในเขตเมืองที่เริ่มอิ่มตัว เนื่องจากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ทางด่วนนอกเมืองมีโอกาสเติบโตมากกว่าทางด่วนในเมือง
เคาะเป้าหมาย 12.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2562 ของ BEM ที่ 565 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2562 แต่เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมคาดการณ์กำไรปกติทั้งปี 2562 ที่ 3,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.69% เมื่อเทียบกับปี 2561 แต่จะเพิ่มขึ้นถึง 35% มาอยู่ที่ 4,314 ล้านบาท ในปี 2563 หนุนจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินครบวงจร โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร BEM ทั้งปี 2563 จะเติบโตได้ถึง 20% แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมที่ 12.50 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า บริษัทยังคงคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารทั้งปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัว 17-20% ตามปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 บางซื่อ-ท่าพระ ในเดือนมีนาคม 2563 ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BEM ครบวงจร
จำนวนผู้โดยสารเพิ่ม
สำหรับการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 เพิ่มอีก 4 สถานี คือ สถานีบางยี่ขัน สถานีบางขุนนนท์ สถานีแยกไฟฉาย สถานีจรัญสนิทวงศ์ 13 ไปบรรจบกับสถานีท่าพระ นั้น บริษัทคาดหวังผู้โดยสาร ณ สิ้นปี 2563 ที่ 1 แสนคนต่อวัน ใกล้เคียงกับส่วนต่อขยายที่ 1 เพราะมีสถานีสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช-บางขุนนนท์-พรานนก ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของฝั่งธน อีกทั้งทาง BEM จะนำรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการเพิ่มอีก 20 ขบวน ส่งผลให้บริษัทมีรถให้บริการในสายสีน้ำเงินทั้งสิ้น 54 ขบวน อัตราการให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองให้บริการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินส่วนที่ 2 ถือว่าช่วยให้ผู้โดยสารในเส้นทางหลักเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราเห็นจำนวนผู้โดยสารช่วงชั่วโมงเร่งด่วนในวันทำงานเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนคนต่อวัน และเฉลี่ยทั้งสัปดาห์จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ระหว่าง 6 หมื่นคน 1 แสนคนต่อวัน และเมื่อเรานำรถเข้ามาให้บริการครบ 54 ขบวนชั่วโมงเร่งด่วนเวลารอจะเหลือ 2-3 นาทีต่อขบวน ความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"
ธุรกิจทางด่วนทรงตัว
สำหรับธุรกิจทางด่วนนั้น จำนวนผู้ใช้ทางด่วนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 1-2% เนื่องจากการจราจรในเขตเมืองติดขัดจากการก่อสร้างหลายเส้นทาง ดังนั้นอัตราการใช้ทางด่วนนอกเมืองโอกาสเติบโตมากกว่าทางด่วนในเมือง ปัจจุบันมีปริมาณจราจร 1.1 ล้านคันต่อวัน
ทั้งนี้คาดการณ์รายได้สำหรับธุรกิจทางด่วนน่าจะทรงตัวต่อเนื่องโดยเฉลี่ยธุรกิจนี้จะสร้างรายได้เฉลี่ยปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตามปริมาณจราจรบนทางด่วนในเขตเมืองที่เริ่มอิ่มตัว เนื่องจากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ทางด่วนนอกเมืองมีโอกาสเติบโตมากกว่าทางด่วนในเมือง
เคาะเป้าหมาย 12.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2562 ของ BEM ที่ 565 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2562 แต่เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมคาดการณ์กำไรปกติทั้งปี 2562 ที่ 3,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.69% เมื่อเทียบกับปี 2561 แต่จะเพิ่มขึ้นถึง 35% มาอยู่ที่ 4,314 ล้านบาท ในปี 2563 หนุนจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินครบวงจร โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร BEM ทั้งปี 2563 จะเติบโตได้ถึง 20% แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมที่ 12.50 บาท
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ