JSPลุยเปิด7โครงการใหม่มูลค่าครึ่งหมื่นล้าน
วันที่ : 7 กุมภาพันธ์ 2563
"เจ เอส พี" เดินหน้าเปิดการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ในปี 63 มุ่งเปิด 7 โครงการแนวราบ มูลค่าขาย 5,000 ล้านบาท พร้อมเร่งระบายสต๊อกคอนโดพร้อมอยู่มูลค่า 3,000 ล้านบาท ลั่นปีนี้ เป้าขาย 4,200 ล้านบาท เติบโต 50-60% ยอดขายโอน 3,500 ล้านบาท
"เจ เอส พี" เดินหน้าเปิดการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ในปี 63 มุ่งเปิด 7 โครงการแนวราบ มูลค่าขาย 5,000 ล้านบาท พร้อมเร่งระบายสต๊อกคอนโดพร้อมอยู่มูลค่า 3,000 ล้านบาท ลั่นปีนี้ เป้าขาย 4,200 ล้านบาท เติบโต 50-60% ยอดขายโอน 3,500 ล้านบาท
นางกนกพร สาณะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บริษัท เจ เอส พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ "JSP" เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ว่า บริษัทจะเริ่มขยายการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทอยู่ในช่วงของการปรับโครงสร้างองค์กร การรีแบรนด์บริษัท การบริหารโครงการ โดยเฉพาะการดูแลสต๊อกโครงการคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ให้กลับมาเป็นรายได้ ซึ่งในปีนี้จะนำที่ดินรอการพัฒนา(แลนด์แบงก์)ที่สามารถพัฒนาโครงการได้ 15 โครงการ มาเร่งการก่อสร้างจำนวน 11 โครงการ และเปิดการขายประมาณ 7 โครงการ ทั้งหมดที่เปิดขายเป็นโครงการแนวราบ ทั้งรูปแบบทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม และบ้านแฝด รวมมูลค่าการขาย 5,000 ล้านบาท ระดับราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกจะเปิด 2 โครงการ และในครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่มอีก 5 โครงการ
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านระดับพรีเมียม เปิดใหม่ 1 โครงการในโซนกัลปพฤกษ์-สาธร ราคาเริ่มต้น 40-50 ล้านบาท จับกลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารที่มีกำลังซื้อสูง ขนาดของโครงการไม่ใหญ่ประมาณ 9 ไร่ พัฒนาจำนวนหลังไม่มากประมาณ 9-10 หลัง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งโครงการใหม่อยู่ระหว่างการศึกษาทั้งเรื่องแบบ แบรนด์ของโครงการ เป็นต้น
สำหรับในปีนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทเร่งระบายสินค้าคงค้าง(สต๊อก)ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ยอดขายปี 63 จะสามารถทำได้ดี 4,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 50-60% และมีเป้ายอดขายโอนไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เนื่องจากโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้จะมีการส่งมอบให้ลูกค้าได้รวดเร็ว
"ที่ดินเดิมของบริษัท รองรับพัฒนาได้ 15 โครงการหลักจะอยู่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก รวมถึง กำลังพิจารณาที่จะจัดซื้อที่ดินเพิ่มใน เช่น บางนา ถนนสายไหม งบจัดซื้อที่ดินเบื้องต้น 500 ถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้ซื้อที่ดินมาสักระยะหนึ่งแล้ว"
ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม อยู่ในภาวะที่ไม่เหมาะกับการลงทุน โดยบริษัทได้เร่งบริหารโครงการคอนโดฯพร้อมอยู่ที่เปิดการขายใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเจ คอนโด สาทร-กัลปพฤกษ์ และโครงการไมอามี่ คอนโด บางปู ซึ่งปัจจุบันสต๊อกรอการขายมีมูลค่าคงเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท ปรับลดลงมาไม่ต่ำกว่า 40%
ล่าสุดในไตรมาสแรกปี 63 บริษัทได้เปิดโครงการเพื่อขยายฐานรับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยทำเลทองจังหวัดนนทบุรี ภายใต้ชื่อโครงการ เจ วิลล่า รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง โครงการบ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 4.79-8 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 36-52 ตารางวา มูลค่าโครงการรวมกว่า 980 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 280 ล้านบาทและเป้ายอดโอนเฉพาะโครงการดังกล่าว 198 ล้านบาท จะมีการเปิดขายพรีเซลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
"ลูกค้าเข้ามาชมโครงการมากขึ้นต่อเนื่อง เป็นโครงการเดียวที่ในโซนบางบัวทองที่ติดถนน คู่แข่งน้อย ส่วนใหญ่จะอยู่เส้นราชพฤกษ์ ซึ่ง โปรดักส์เราบ้านแฝดยังมีความต้องการอยู่เสมอ"
นางกนกพร สาณะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บริษัท เจ เอส พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ "JSP" เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ว่า บริษัทจะเริ่มขยายการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทอยู่ในช่วงของการปรับโครงสร้างองค์กร การรีแบรนด์บริษัท การบริหารโครงการ โดยเฉพาะการดูแลสต๊อกโครงการคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ให้กลับมาเป็นรายได้ ซึ่งในปีนี้จะนำที่ดินรอการพัฒนา(แลนด์แบงก์)ที่สามารถพัฒนาโครงการได้ 15 โครงการ มาเร่งการก่อสร้างจำนวน 11 โครงการ และเปิดการขายประมาณ 7 โครงการ ทั้งหมดที่เปิดขายเป็นโครงการแนวราบ ทั้งรูปแบบทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม และบ้านแฝด รวมมูลค่าการขาย 5,000 ล้านบาท ระดับราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกจะเปิด 2 โครงการ และในครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่มอีก 5 โครงการ
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านระดับพรีเมียม เปิดใหม่ 1 โครงการในโซนกัลปพฤกษ์-สาธร ราคาเริ่มต้น 40-50 ล้านบาท จับกลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารที่มีกำลังซื้อสูง ขนาดของโครงการไม่ใหญ่ประมาณ 9 ไร่ พัฒนาจำนวนหลังไม่มากประมาณ 9-10 หลัง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งโครงการใหม่อยู่ระหว่างการศึกษาทั้งเรื่องแบบ แบรนด์ของโครงการ เป็นต้น
สำหรับในปีนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทเร่งระบายสินค้าคงค้าง(สต๊อก)ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ยอดขายปี 63 จะสามารถทำได้ดี 4,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 50-60% และมีเป้ายอดขายโอนไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เนื่องจากโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้จะมีการส่งมอบให้ลูกค้าได้รวดเร็ว
"ที่ดินเดิมของบริษัท รองรับพัฒนาได้ 15 โครงการหลักจะอยู่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก รวมถึง กำลังพิจารณาที่จะจัดซื้อที่ดินเพิ่มใน เช่น บางนา ถนนสายไหม งบจัดซื้อที่ดินเบื้องต้น 500 ถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้ซื้อที่ดินมาสักระยะหนึ่งแล้ว"
ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม อยู่ในภาวะที่ไม่เหมาะกับการลงทุน โดยบริษัทได้เร่งบริหารโครงการคอนโดฯพร้อมอยู่ที่เปิดการขายใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเจ คอนโด สาทร-กัลปพฤกษ์ และโครงการไมอามี่ คอนโด บางปู ซึ่งปัจจุบันสต๊อกรอการขายมีมูลค่าคงเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท ปรับลดลงมาไม่ต่ำกว่า 40%
ล่าสุดในไตรมาสแรกปี 63 บริษัทได้เปิดโครงการเพื่อขยายฐานรับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยทำเลทองจังหวัดนนทบุรี ภายใต้ชื่อโครงการ เจ วิลล่า รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง โครงการบ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 4.79-8 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 36-52 ตารางวา มูลค่าโครงการรวมกว่า 980 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 280 ล้านบาทและเป้ายอดโอนเฉพาะโครงการดังกล่าว 198 ล้านบาท จะมีการเปิดขายพรีเซลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
"ลูกค้าเข้ามาชมโครงการมากขึ้นต่อเนื่อง เป็นโครงการเดียวที่ในโซนบางบัวทองที่ติดถนน คู่แข่งน้อย ส่วนใหญ่จะอยู่เส้นราชพฤกษ์ ซึ่ง โปรดักส์เราบ้านแฝดยังมีความต้องการอยู่เสมอ"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ