คอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย: สินเชื่อบ้านผ่อนล้านละ10บาท/เดือน
วันที่ : 28 พฤศจิกายน 2562
ก็ สร้างความฮือฮาจนกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดตัว"สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" โดย ปีแรกให้ผ่อนงวดละ 10 บาทต่อเดือน และคิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 0.010% ต่อปี
ลม เปลี่ยนทิศ
ก็ สร้างความฮือฮาจนกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดตัว"สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" โดย ปีแรกให้ผ่อนงวดละ 10 บาทต่อเดือน และคิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 0.010% ต่อปี เพื่อช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตนเอง สอดคล้องกับความต้องการมีที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงปลายปี มีวงเงินสินเชื่อโครงการนี้ 25,000 ล้านบาท จะกู้ไปสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองก็ได้ กู้ไปต่อเติมซ่อมแซมบ้านก็ได้
โครงการนี้ เปิดให้แจ้งความจำนงที่สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม หรือจะไปแจ้งความจำนงจองสิทธิในงานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 Money Expo Year-End 2019 ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2562 ก็ได้ โดยมีโปรโมชันพิเศษในงานด้วย
ดร.ชาติชาย เปิดเผยรายละเอียดโครงการ "สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" ว่า สามารถกู้ไปซื้อบ้านใหม่ ปลูกบ้านบนที่ดิน ต่อเติมซ่อมแซมหรือรีไฟแนนซ์ โดยให้กู้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย แต่ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 4.350% ปีที่ 4 เป็นต้นไปดอกเบี้ย MRR-0.50% (ดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันอยู่ที่ 6.745%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.903% โดย วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ให้ผ่อนชำระได้ 20 ปี ในปีแรกให้ผ่อนชำระ10บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน ปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ ผู้กู้ยังได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน ตามมติครม. จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และ ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01
ดร.ชาติชาย เปิดเผยด้วยว่า ธนาคารออมสินได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มากที่สุด สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำได้คิดคำนวณเงินค่างวดให้ผ่อนสบายๆ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้ผู้กู้แบ่งเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมเพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
ผมขอชม โครงการสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ เป็นโครงการที่ดีมาถูกจังหวะถูกเวลาพอดี วงการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้มีปัญหาค่อนข้างมากจากมาตรการ LTV เพื่อควบคุมสินเชื่อบ้านของแบงก์ชาติ ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปีนี้มีบ้านเหลือขายประมาณ 270,131 หน่วย อยู่ในกรุงเทพฯ 56.3% ต่างจังหวัด 43.7% ส่วนใหญ่เป็นบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท ถ้าสามารถขายบ้านที่เหลือในช่วงปลายปีนี้ได้หมด ปีหน้าก็จะมีการก่อสร้างบ้านใหม่ เกิดการจ้างงานใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกมหาศาลทีเดียว
บ้านคือวิมานของเรา ทุกคนในโลกนี้อยากมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ติดขัดที่เงินรายได้ไม่เพียงพอ ถ้ามีการยืดหยุ่นให้สามารถผ่อนบ้านได้นานถึง 40 ปี ย่อมช่วยลดภาระของคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านได้ เช่น ซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท ผ่อนนาน 40 ปี เฉลี่ยตกปีละ 75,000 บาท เดือนละ 6,250 บาท บวกดอกเบี้ยแล้วก็ยังผ่อนสบาย
ผมมีข้อมูลจากวงการอสังหาริมทรัพย์ที่วิจัยบนพื้นฐานประชากรศาสตร์พบว่า กลุ่มผู้มีอำนาจซื้อบ้านในวันนี้ คือ กลุ่มคน Gen Y หรือกลุ่มคนทำงานวัย 20-40 ปี เป็นหลัก ตามด้วย กลุ่มคน Gen X หรือกลุ่มคนทำงานวัย 40-52 ปี โดย กลุ่มเจน Y มีสัดส่วนการซื้อบ้านในกรุงเทพฯสูงถึง 26% ตามมาด้วยกลุ่มคนเจน X 25% รวมกำลังซื้อสองกลุ่มนี้สูงถึง 51% ของการซื้อบ้านทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่แข็งแรงมาก
การมีบ้าน ก็คือ การมีทรัพย์สิน ถือเป็น การออมเงิน อย่างหนึ่ง และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น "สินเชื่อบ้าน" จึงเป็นสินเชื่อที่ทุกหน่วยงานของรัฐควรส่งเสริม เพื่อช่วยกันสร้างความมั่นคงให้สังคม และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกด้วย
ก็ สร้างความฮือฮาจนกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดตัว"สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" โดย ปีแรกให้ผ่อนงวดละ 10 บาทต่อเดือน และคิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 0.010% ต่อปี เพื่อช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตนเอง สอดคล้องกับความต้องการมีที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงปลายปี มีวงเงินสินเชื่อโครงการนี้ 25,000 ล้านบาท จะกู้ไปสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองก็ได้ กู้ไปต่อเติมซ่อมแซมบ้านก็ได้
โครงการนี้ เปิดให้แจ้งความจำนงที่สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม หรือจะไปแจ้งความจำนงจองสิทธิในงานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 Money Expo Year-End 2019 ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2562 ก็ได้ โดยมีโปรโมชันพิเศษในงานด้วย
ดร.ชาติชาย เปิดเผยรายละเอียดโครงการ "สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำล้านละ 10 บาท" ว่า สามารถกู้ไปซื้อบ้านใหม่ ปลูกบ้านบนที่ดิน ต่อเติมซ่อมแซมหรือรีไฟแนนซ์ โดยให้กู้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย แต่ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 4.350% ปีที่ 4 เป็นต้นไปดอกเบี้ย MRR-0.50% (ดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันอยู่ที่ 6.745%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.903% โดย วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ให้ผ่อนชำระได้ 20 ปี ในปีแรกให้ผ่อนชำระ10บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน ปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ ผู้กู้ยังได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน ตามมติครม. จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และ ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01
ดร.ชาติชาย เปิดเผยด้วยว่า ธนาคารออมสินได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มากที่สุด สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำได้คิดคำนวณเงินค่างวดให้ผ่อนสบายๆ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้ผู้กู้แบ่งเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมเพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
ผมขอชม โครงการสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ เป็นโครงการที่ดีมาถูกจังหวะถูกเวลาพอดี วงการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้มีปัญหาค่อนข้างมากจากมาตรการ LTV เพื่อควบคุมสินเชื่อบ้านของแบงก์ชาติ ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปีนี้มีบ้านเหลือขายประมาณ 270,131 หน่วย อยู่ในกรุงเทพฯ 56.3% ต่างจังหวัด 43.7% ส่วนใหญ่เป็นบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท ถ้าสามารถขายบ้านที่เหลือในช่วงปลายปีนี้ได้หมด ปีหน้าก็จะมีการก่อสร้างบ้านใหม่ เกิดการจ้างงานใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกมหาศาลทีเดียว
บ้านคือวิมานของเรา ทุกคนในโลกนี้อยากมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ติดขัดที่เงินรายได้ไม่เพียงพอ ถ้ามีการยืดหยุ่นให้สามารถผ่อนบ้านได้นานถึง 40 ปี ย่อมช่วยลดภาระของคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านได้ เช่น ซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท ผ่อนนาน 40 ปี เฉลี่ยตกปีละ 75,000 บาท เดือนละ 6,250 บาท บวกดอกเบี้ยแล้วก็ยังผ่อนสบาย
ผมมีข้อมูลจากวงการอสังหาริมทรัพย์ที่วิจัยบนพื้นฐานประชากรศาสตร์พบว่า กลุ่มผู้มีอำนาจซื้อบ้านในวันนี้ คือ กลุ่มคน Gen Y หรือกลุ่มคนทำงานวัย 20-40 ปี เป็นหลัก ตามด้วย กลุ่มคน Gen X หรือกลุ่มคนทำงานวัย 40-52 ปี โดย กลุ่มเจน Y มีสัดส่วนการซื้อบ้านในกรุงเทพฯสูงถึง 26% ตามมาด้วยกลุ่มคนเจน X 25% รวมกำลังซื้อสองกลุ่มนี้สูงถึง 51% ของการซื้อบ้านทั้งหมดในกรุงเทพฯ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่แข็งแรงมาก
การมีบ้าน ก็คือ การมีทรัพย์สิน ถือเป็น การออมเงิน อย่างหนึ่ง และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น "สินเชื่อบ้าน" จึงเป็นสินเชื่อที่ทุกหน่วยงานของรัฐควรส่งเสริม เพื่อช่วยกันสร้างความมั่นคงให้สังคม และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกด้วย
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ