ดันตั้งเขตศก.พิเศษ6จังหวัดขับเคลื่อนไบโออีโคโนมีให้เกิดนำร่องขอนแก่น
Loading

ดันตั้งเขตศก.พิเศษ6จังหวัดขับเคลื่อนไบโออีโคโนมีให้เกิดนำร่องขอนแก่น

วันที่ : 2 กุมภาพันธ์ 2560
ดันตั้งเขตศก.พิเศษ6จังหวัดขับเคลื่อนไบโออีโคโนมีให้เกิดนำร่องขอนแก่น

สานพลังประชารัฐ ดัน 6 พื้นที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหมือนอีอีซี ไล่ตั้งแต่ ขอนแก่น นครสวรรค์ อุดรธานี กาแพงเพชร สมุทรสาครและนนทบุรี ปูทางให้ไบโออีโคโนมีได้เกิดลงทุน 3.6 แสนล้านบาท ด้านมิตรผล ยันมีพื้นที่พร้อมให้เป็นพื้นที่นาร่อง

ภายหลังการลงนามความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาและวิจัย รวม 23 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา โดยการผลักดันของคณะทางานด้านการพัฒนาคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ภายใต้สานพลังประชารัฐ มีนายอุตตมสาวนายน รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าทีมภาครัฐ และนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมีคอล จากัด (มหาชน) เป็นหัวหน้าทีมภาคเอกชน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านเศรษฐกิจชีวภาพหรือไบโออีโคโนมี

โดยตั้งกรอบการลงทุนในระยะ 10 ปี (2560-2569) ไว้ 3.65 แสนล้านบาท จะก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอ้อยได้มากกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี มันสาปะหลังกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มเป็น 7.5 หมื่นบาทต่อคนต่อปี มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่ต่ากว่า 2 แสนตาแหน่ง

ทั้งนี้ การดาเนินงานจากนี้ไปทางคณะทางานดังกล่าว จะมีการเร่งผลักดันให้คณะรัฐมนตรี ประกาศพื้นที่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครสวรรค์ กาแพงเพชร อุดรธานี สมุทรสาคร และนนทบุรี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในรูปแบบเดียวกับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาห กรรม เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ทางคณะทางานอยู่ระหว่างการจัดทารายละเอียดในแผนศึกษาการลงทุนของจังหวัดต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการนาเสนอพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นมาแล้ว ที่จะให้มีการประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ คล้ายกับกรณีของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพื่อดึงดูดนักลงทุนแต่เห็นว่ายังมีพื้นที่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนไบโออีโคโนมีเป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น จะมีการจัดทาเป็นแพ็กเกจของแต่ละจังหวัด เสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี พร้อมๆกัน

นายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคณะทางานฯได้มีการเสนอพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ อาเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ไปยังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนาเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเกษตร  เป็นพื้นที่นาร่องในการขับเคลื่อนไบโออีโคโนมีก่อน เนื่องจากมีความพร้อมด้านพื้นที่ปลูกอ้อย และสถาบันการศึกษาในพื้นที่

ทั้งนี้ หากประกาศเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว การลงทุนก็จะได้สิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับอีอีซี โดยระยะแรกจะเป็นการดึงนักวิจัย เข้ามาอยู่ในพื้นที่ก่อน เพื่อทางานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ และนาผลการวิจัยมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป และหลังจากนั้นถึงจะเตรียมความพร้อมสร้างไบโอรีไฟเนอรี่ คอมเพล็กซ์หรือโรงกลั่นชีวภาพขึ้นมา เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 13 โครงการ เป็นต้น

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ KTIS หนึ่งในภาคเอกชนที่จะร่วมขับเคลื่อนไบโออีโคโนมี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งคอมเพล็กซ์ ไบโอชีวภาพ ในพื้นที่ อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ บนเนื้อที่ราว 1,000 ไร่ ที่ติดกับโรงงานน้าตาล ร่วมกับบริษัท พีทีทีโกลบอล เคมีคอล จากัด (มหาชน) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการลงทุนในส่วนของการผลิตเอทานอลจากกากน้าตาลก่อน ขนาดกาลังการผลิต 6 แสนลิตรต่อวัน ส่วนการต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นกาลังศึกษาว่าจะมีประเภทใดบ้าง ซึ่งเงินลงทุนคราวๆ ที่วางไว้จะไม่ต่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะถือหุ้นในโครงการนี้ประมาณ 50%

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

 

 

ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ