รถไฟฟ้ามา โฮสเทลเกิด
นอกจากประเทศญี่ปุ่นจะถูกหยิบยกเป็นโมเดลต้นแบบในการเดินทางด้วยระบบรางแล้ว อีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั่นคือกรุงไทเป ไต้หวัน เพราะนอกจากค่าครองชีพจะไม่สูงมากแล้ว ยังเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งหากสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จ มีโอกาสที่จะเติบโตไปในทิศทางที่คล้ายกับสถานีไทเป หรือไทเป เมน สเตชั่น ที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางขนาดใหญ่ที่นักเดินทางสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งรถไฟฟ้า รถทัวร์ ไปยังเมืองต่างๆ ในไต้หวัน
ทำเลย่านไทเป เมน สเตชั่น จึงเป็นทำเลอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเลือกพัก เพราะเดินทางมาจากสนามบินสะดวก มาจอดและเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ทั่วกรุงไทเป หรือเมือง อื่นๆ ของไต้หวันได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อการเดินทางสะดวกแล้ว แหล่งไลฟ์สไตล์ แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ก็จะเกิด ตามมา รวมถึงธุรกิจที่พักที่มีตั้งแต่โฮสเทลไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว
หากสถานีกลางบางซื่อเริ่มชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ก็เชื่อว่าตลาดที่พักเพื่อการท่องเที่ยวย่านใกล้เคียงสถานีแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งทำเลทางเลือกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดโฮสเทลเจาะกลุ่มท่องเที่ยวเองมีแนวโน้มจะเป็นกลุ่มที่เกิดก่อนที่พักราคาสูง เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่เน้นอยู่ใจกลางเมือง แต่เน้นที่พักเดินทางสะดวก สะอาด ปลอดภัย โฮสเทลย่านนี้จึงมีโอกาสเกิดเป็นอันดับต้นๆ
ศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทย กล่าวว่า โดยธรรมชาติจุดไหนที่เดินทางสะดวกโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ตรงนั้นก็จะก่อให้เกิดชุมชนใหม่ คอนโดมิเนียม ร้านค้า โรงแรม รวมถึงโฮสเทลก็จะเกิดตามมา เพราะจะทำให้คนสนใจปรับปรุงบ้านหรือตึกที่อยู่อาศัยให้กลายมาเป็นโฮสเทลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้ควบคู่กับการสร้างกิจกรรมที่น่าสนใจมารองรับ
"ปกติเวลาเลือกที่พัก นักท่องเที่ยว ต้องดูเส้นทางว่าใกล้รถไฟฟ้า รถใต้ดินหรือไม่ ปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่การพักในกรุงเทพฯ แต่ในพื้นที่อื่นด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีรถไฟความเร็วสูงไปถึง ตัวเมืองก็จะกระจายออกไป โฮสเทลก็จะได้อานิสงส์เพราะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเดินทางเองที่จะกระจายไป"
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้หน่วยงานภาครัฐควรจะต้องปรับปรุงกฎหมายด้านโรงแรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กระจายสู่ชุมชนมากขึ้น โดยเปิดกว้างให้รองรับการสร้างนวัตกรรมที่พักที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น โฮสเทล หรือโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (บูติก โฮเต็ล) เพราะปัจจุบันไม่ใช่แค่กระแสที่เติบโตในไทย แต่เป็นกระแสทั่วโลก จากการที่มีอินเทอร์เน็ตทำให้โรงแรมเล็กทำตลาดได้ง่ายขึ้น ไม่เหมือนในอดีตที่โรงแรมเล็กมีปัญหาการตลาด เพราะขาดเครือข่ายด้านการขายและทำตลาด โดยหากรัฐ ไม่เปิดกว้างกฎหมายส่งเสริม ก็จะมีแต่โรงแรม 4-5 ดาวที่ลงทุนโดยทุนใหญ่ ไม่ได้ประโยชน์กับกลุ่มเอสเอ็มอี หรือสตาร์ทอัพ
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์