"โอเชี่ยน กรุ๊ป" เปิดแผนธุรกิจปี 60 เร่งเพิ่มรายได้กลุ่มอสังหาฯ เพื่อขายตั้งเป้าปีนี้รายได้รวม 970 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 กว่า 300 ล้านบาท พร้อมลงทุนโครงการใหม่ 5 โครงการใน กทม.และต่างจังหวัดทั้งแนวราบแนวสูงมูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท นำร่องโครงการของปี "โอเชี่ยน เกท" สุพรรณบุรี แจงมียอดขายแล้วกว่า 20% คาดปิดการขายใน 2 ปีจากนี้ตามเป้า

ดร.ธีระชัย พิพิธศุผล กรรมการผู้จัดการ โอเซี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา "โอเชี่ยน กรุ๊ป" มีรายได้รวม 670 ล้านบาท โดยมาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 170 ล้านบาท และ มาจากกลุ่มอสังหาฯเพื่อเช่า 500 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 นี้ โอเชื่ยน กรุ๊ป มีแผนจะผลักดันรายได้ในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อการขายเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม 970 ล้าน บาท ซึ่งมาจากโครงการเก่าคือ โอเชี่ยน ฟอร์โตฟิโน คอนโดมิเนียมพัทยา และโครงการใหมที่จะเปิดขายในปีนี้ 470 ล้านบาท และอสังหาฯเพื่อเช่า 500ล้านบาท ดังนั้น นโยบายการลงทุนในปีนี้จึงให้น้ำหนักกับการลงทุนพัฒนาโครงการ อสังหาฯ เพื่อขายโครงการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

โดยปี 60 นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการอสังหาฯเพื่อขาย ทั้งในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัดรวม 5 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 5,400-5,500 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ โอเชี่ยน เกท สุพรรณบุรี โครงการทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น จำนวน 204 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ 16 ยูนิต บนทำเล เลียบถนนหมื่นหาญ ราคาขายเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท มูลค่ารวม 745 ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 20% หลังเปิดพรีเซลในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าว่าปิดการขายโครงการภายใน 2 ปีจากนี้ ส่วน อีก 4 โครงการประกอบด้วย โครงการ โอเชี่ยนเรสซิเดนซ์ ขอนแก่น, โครงการโอเชี่ยนทาวน์ ภูเก็ต, โครงการโอเชี่ยนวิลเลจ ภูเก็ต และ โครงการโอเชี่ยน ริเวอร์ พระราม 3

ทั้งนี้ โครงการโอเชี่ยนเรสซิเดนซ์ ขอนแก่น จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น จำนวน 223 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 2 ไร่  ขนาดห้องชุดเริ่มต้น 23-45 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลราชพฤกษ์ คาดว่าจะเปิดขายไตรมาสที่ 3 ปีนี้ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของโครงการดังกล่าวจะเป็นนักศึกษาและบุคลากรด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบุคลากรทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลราชพฤกษ์

ส่วนโครงการโอเชี่ยนทาวน์ ภูเก็ตจะพัฒนาเป็น โครงการ ทาวน์โฮม 220 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 23 ไร่ ราคา 3-5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 4 ของปีนี้ และโครงการโอเชี่ยนวิลเลจ ภูเก็ตโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 120 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายไตรมาส 4 ของปีนี้เช่นเดียวกัน

สำหรับโครงการสุดท้ายคือ ที่มีแผน จะลงทุนในปีนี้ คือ โครงการโอเชี่ยน ริเวอร์ พระราม 3 คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์สูง 40 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 800 ยูนิต บนพื้นที่ 16 ไร่ ราคา ขายเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดัวไตรมาสที่ 4/60 หรือไม่เกินไตรมาสแรกปี 61

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา