แนะอสังหาฯ กลางใหญ่ปรับตัวรับยุค 4.0 ลุยตลาดใหม่เพิ่มพอร์ต ส่วนรายเล็กเน้นแตกต่างเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยุค 4.0 ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ รายเล็ก กลาง และใหญ่ เริ่มมีการ ปรับตัว ซึ่งภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง โดย 1-2 ปี ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัว กำลังซื้อและความเชื่อมั่นคนไทยลดลง อีกทั้งภาวะที่มีหนี้ครัวเรือนมากเกินไปจนมีผลต่อการขอสินเชื่อโดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ทำให้ ผู้ประกอบการหลายรายปรับมาทำโครงการระดับกลางขึ้นไปมากขึ้นและเพิ่มสัดส่วนบ้านจัดสรรเพื่อหารายได้ในช่วงนี้

"ผู้ประกอบการเฝ้าระวังเรื่องโอเวอร์ซัพพลาย มีการขยับเข้าสู่ตลาดใหม่และขยายช่องทางการขายใหม่ ซึ่งรายกลางและรายใหญ่ได้มีการร่วมทุนกับผู้ประกอบการต่างชาติ รวมไปถึงการนำโครงการไปขายต่างประเทศโดยอาศัยนายหน้า ต่างชาติมากขึ้น แม้จะเสียค่าคอมมิชชั่น สูงก็ตาม" นายสุรเชษฐ กล่าว

สำหรับในปีนี้สัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30% โดยจีนเป็นตลาดที่ให้ความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมในไทย ระดับราคา 3-5 ล้านบาทมากสุด ส่วน ผู้ซื้อต้องปรับตัวและศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ อย่ารีบลงทุนซื้อคอนโดเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่ทิ้งใบจองไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์กลายเป็นปัญหายูนิตเหลือขายเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นนทบุรี กล่าวว่ากลยุทธ์สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่จะมีที่ยืนในตลาดจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและสร้างจุดเด่นของบริษัทโดยเลือกทำตลาดที่รายใหญ่ไม่ทำเพราะไม่คุ้มทุน การเลือกทำเลต้องเจาะที่มีความต้องการจริงอย่าเล่นตามตลาดเก็งกำไร นอกจากนี้ต้องพัฒนาสินค้าให้คุ้มค่าเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม

ด้าน นายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ กล่าวว่า บริษัทได้เปิด 2 ธุรกิจใหม่คือ บริษัทนายหน้าอสังหาฯ และพร็อพเพอร์ตี้เทค ให้บริการซื้อ ขาย และเช่า ทั้งตลาดชาวไทยและต่างชาติ การ เป็นตัวแทนขายทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงการร่วมลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ ตั้งเป้าเติบโตเป็นอีก 2 เท่า ใน 3 ปี

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์