แกรนด์แอสเสท ดึงเชนหรูบุกระยอง รับ อีอีซี ดันตลาดไมซ์บูม
Loading

แกรนด์แอสเสท ดึงเชนหรูบุกระยอง รับ อีอีซี ดันตลาดไมซ์บูม

วันที่ : 10 เมษายน 2560
แกรนด์แอสเสท ดึงเชนหรูบุกระยอง รับ อีอีซี ดันตลาดไมซ์บูม

การผลักดันโครงการพัฒนา เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ของรัฐบาล ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจขยายฐานการผลิต และการลงทุนต่างๆ  เข้าสู่พื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ "ระยอง" บรรยากาศการจับจองที่ดินเป็นไปอย่างคึกคัก ส่งผลราคาขายในปัจจุบันเทียบปลายปี 2559 ขยับขึ้นแล้วไม่ต่ำกว่า 20-30%

ไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการ บนที่ดินติดชายหาดกว่า 100 ไร่ ใน จ.ระยอง เป็นรูปธรรมในปีนี้ เพื่อรองรับ การขยายธุรกิจและฐานการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ

โดยจัดสรรงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โครงการหลัก ได้แก่ โรงแรม 5 ดาว ขนาด 200 ห้อง ซึ่งอยู่ระหว่าง เจรจาเลือกเชนโรงแรมระดับโลกจาก 3-4  บริษัทที่จะเข้ามาบริหาร วางตำแหน่งทางการตลาดเป็นโรงแรมหรูที่สุดใน ระยอง  มีพื้นที่การจัดประชุมขนาดใหญ่ และทันสมัยเป็นจุดขาย เพื่อตอบสนอง กลุ่มนักเดินทางเชิงธุรกิจในวันธรรมดา  ที่จะเข้ามาพร้อมกับการลงทุนในอีอีซี

ขณะนี้ในระยองมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เป็นอินเตอร์เชนเพียงแห่งเดียว ขณะที่ โรงงานในรัศมีใกล้เคียงมีนับหมื่นแห่ง  มีความต้องการใช้ห้องพักและห้องประชุม สูงมากสวนทางกับอุปทานห้องพักใน ระดับมาตรฐานเชนต่างประเทศมีไม่ เพียงพอรองรับ

"โรงแรมส่วนใหญ่ใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างรวมกว่า 4 ปี  จากการพัฒนาขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อการเติบโตของเขตเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังสนับสนุน เต็มที่ จึงเป็นโอกาสของธุรกิจโรงแรม อย่างมาก ทั้งตลาดประชุมสัมมนาและ ตลาดท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันระยองเป็นจุดหมายที่ชาวยุโรปหนีความแออัดจากพัทยามาโซนนี้ค่อนข้างมาก"

ทั้งนี้ ระยอง มีจุดแข็งทั้งชายทะเล ที่เงียบสงบ  อาหารทะเลท้องถิ่น  สวนผลไม้ที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญของประเทศหลายแห่ง

โครงการต่อมา จะพัฒนา "พูลวิลล่า" ประมาณ 40 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 20-100 ล้านบาท เจาะลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มี กำลังซื้อสูง โดยใช้จุดเด่นของที่ดินติดชายหาด "ครึ่งกิโลเมตร" และลาดชันยกระดับจากชายหาดกว่า 20-50 เมตร ทำให้สร้างที่พักเห็นวิวทะเลได้เต็มที่

ปัจจุบันเหลือทำเลลักษณะนี้ให้ พัฒนาน้อยมากแล้ว ในปีนี้จะสร้างบ้านตัวอย่างเพื่อเปิดจอง

ขณะที่โครงการสุดท้าย จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียด สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในระยอง เป็นอีกกลุ่มการลงทุนที่น่าสนใจ จากการสำรวจในเชิงประชากรศาสตร์ พบว่า คนทำงานในโซนนิคมต่างๆ มาจาก คนต่างถิ่น เช่น ภาคกลาง  ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ รวมถึงชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางถูกส่งมาประจำใน พื้นที่ สะท้อนจากการขยายตัวของ สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งมีเที่ยวบินข้ามภูมิภาค และต่างประเทศ ที่มีอัตราผู้โดยสารสูง อาทิ อู่ตะเภา-อุบลราชธานี เป็นต้น

ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า วางโมเดลการพัฒนาโรงแรมเช่นเดียวกับ เชอราตัน หัวหิน มาใช้กับโรงแรมที่ระยอง ซึ่ง ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่มีห้องประชุม ขนาดใหญ่ที่สุดในหัวหิน ด้วยพื้นที่กว่า 900 ตร.ม.สูงกว่า 7.5 เมตร โดยไม่มี เสาคั่นกลาง ดังนั้นห้องประชุมที่ระยอง จะมีทั้งขนาดและความทันสมัยใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นศูนย์กลางเจาะตลาดไมซ์ โดยเฉพาะปีนี้ จะมีการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยนำโรงแรมเชอราตัน หัวหิน ขนาด 240 ห้อง เข้ามาระดมทุน เนื่องจาก ประเมินว่าเป็นโครงการที่มีรายได้มั่นคง หลังจากเปิดให้บริการต่อเนื่องมา 9 ปี

จุดเด่นคือตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็น กรรมสิทธิ์ขาดรวมกว่า 30 ไร่ ซึ่งปัจจุบันราคาถีบตัวสูงขึ้นต่อเนื่องถึงกว่าไร่ละ 30 ล้านบาท  จึงน่าจะเป็นผลตอบแทน ที่คุ้มค่าและน่าสนใจสำหรับนักลงทุน ที่มาเป็นเจ้าของ

หลังจากนั้นอีกราว 3 ปีเมื่อโรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ขนาด 273 ห้อง ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการต้นปี 2561  มีรายได้ มั่นคง จะพิจารณานำเข้ากอง REIT ต่อไป เช่นกัน โดยเชื่อว่าการมีทำเลที่ตั้งโดดเด่นใกล้สถานีรถไฟฟ้านานา สะดวกต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการขออนุญาตทำทางเชื่อมต่อตรงจากรถไฟฟ้า

นอกจากนี้  การมีพื้นที่ค้าปลีกกว่า 3,000 ตร.ม.รวมถึงการเลือกแบรนด์ ไฮแอท รีเจนซี่ ที่มีความโดดเด่นด้าน การรองรับตลาดประชุมสัมมนา และ การทำรายได้จากห้องอาหารและการ จัดเลี้ยง จะช่วยเสริมให้เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตแข็งแกร่งเช่นกัน

โรงแรมส่วนใหญ่ใช้ก่อสร้างกว่า4ปี  ขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อการเติบโตของเขตเศรษฐกิจ

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ