ส่อตีกลับแผนลงทุนชมพู-เหลือง อาคมไม่มั่นใจเข้าครม.ทันพ.ค.
เลขาฯ ครม. ส่อตีกลับแผนลงทุนรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง สั่งคณะกรรมการมาตรา 35ฯ ทบทวนเงื่อนไขสัญญาให้รอบคอบอีกครั้ง “อาคม” ไม่รับปากเข้า ครม. ทันเดือนนี้หรือไม่
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (9 พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้พิจารณาผลการประกวดราคาโครงการลงทุนรถไฟฟ้า 2 สายทาง คือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 53,519.50 ล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 51,931.15 ล้านบาท
ทั้งนี้เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังนำส่งความเห็นมาไม่ครบ ประกอบด้วยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงบประมาณ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่าจะต้องนำเรื่องส่งกลับมาให้คณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ที่มีนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่า (กลยุทธ์และแผน) รักษาการผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นประธาน พิจารณาทบทวนเงื่อนไขในสัญญาให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนส่งกลับไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม. (สลค.) เพื่อบรรจุเป็นวาระ ครม.ต่อไป
“ตอนนี้เรื่องยังอยู่ที่ สลค. เพราะต้องรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งเหลือ 3 หน่วยที่ยังไม่ส่งมา คือ สศช. กฤษฏีกา และสำนักงบประมาณ จากนั้นมีแนวโน้มว่าจะต้องส่งกลับไปที่คณะกรรมการตามมาตรา 35ฯ ให้พิจารณาเงื่อนไขในสัญญาให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนส่งกลับมาที่ สลค.เพื่อบรรจุเป็นวาระ ถามว่าจะเข้า ครม.ทันเดือนนี้หรือไม่ ไม่อยากตอบแล้ว ขอไม่ตอบแล้วกัน เอาเป็นว่ารอต่ออีกหน่อย เพราะตอนนี้อาจจะล่าช้ากว่าแผนที่เราวางไว้ว่าจะลงนามให้ได้ภายในเมษายน 60 แต่ก็ยังล่าช้าไม่มากจนถึงกับต้องกังวล” นายอาคม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการทั้ง 2 สายทาง มีกลุ่ม BSR Joint Venture (บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC) เป็นผู้รับงาน โดยคณะกรรมการตามมาตรา 35ฯ ได้สรุปการเจรจากับ BSR Joint Venture เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าเอกชนจะแบ่งรายได้ให้ รฟม.ปีละ 250 ล้านบาท ขณะที่ รฟม.จะอุดหนุนให้เอกชนสายทางละ 2,000 ล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 10 ปี รวมแล้วยังต่ำกว่ามูลค่างานโยธาของทั้ง 2 สายทาง เนื่องจากโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสีชมพูและเหลืองมีเงื่อนไขว่าภาครัฐจะให้การอุดหนุนไม่เกินมูลค่างานโยธาแต่ละสายทาง ซึ่งสายสีชมพูมีมูลค่างานโยธา 20,135 ล้านบาท สีเหลือง 22,354 ล้านบาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น