เปิดตัวโครงการจนดังเป็นพลุแตก ตอนนี้ลุ้นจะตอกเข็มทันปีนี้ตามเป้าหรือไม่ สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา "บ้านท่าพระ-บ้านสำราญ" ระยะทาง 22.6 กม. จำนวน 18 สถานี โปรเจ็กต์ นำร่องของเอกชนขอนแก่น ใช้เม็ดเงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท

หลัง 5 เทศบาลจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญ และเทศบาลตำบลท่าพระ ช่วยออกแรงผลักดัน โครงการอีกแรง ด้วยการลงขันจัดตั้งบริษัท ขอนแก่น ทรานซิทซิสเต็มส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อตั้งไข่โครงการ

ในเมื่อยังมีขั้นตอนด้านกฎหมายที่ต้องสะสางระหว่างทาง แถมยังใช้เม็ดเงินลงทุนหลักหมื่นล้าน จึงเป็นที่กังขาว่าโครงการจะรุ่งหรือร่วง

"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ภาคเอกชนจังหวัดขอนแก่นได้มีการรวมตัวลงทุนพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง นอกจากนำรถเมล์นวัตกรรมใหม่วิ่งบริการสนามบินกับสถานีขนส่งแห่งที่ 3 ยังมีแผนลงทุนรถไฟฟ้ารางเบา (LRT)

โดยขอให้กระทรวงช่วยนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจัดระบบจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งต้องรอเอกชนเสนอรายละเอียดโครงการมาก่อน เพื่อให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) วิเคราะห์รายละเอียด

เนื่องจากโครงการยังศึกษารายละเอียดและทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งเป็นโครงการใช้เงินลงทุนเป็น 10,000 ล้านบาท อาจจะยากที่เอกชนท้องถิ่นจะลงทุนเพียงลำพัง

"ยังตอบไม่ได้ว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ตามที่จังหวัดวางแผนไว้หรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องเคลียร์" นายอาคมกล่าวย้ำ

นายชัยธวัช เนียมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ด้วยภูมิศาสตร์จังหวัดขอนแก่นอยู่ในแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ทำให้มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน และมีบริษัทใหญ่หลายภาคส่วนธุรกิจเข้ามาลงทุนมาก เนื่องจากมีจุดเด่นเป็นศูนย์กลางการศึกษา โลจิสติกส์

ทั้งนี้ยังมีการรวมตัวของภาคเอกชนจะผลักดันโครงการพัฒนาใหม่ ๆ ให้ จังหวัดเป็นไมซ์ซิตี้และสมาร์ทซิตี้ตามเป้าหมาย อยากขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนสิ่งที่เอกชนจะลงทุน โดยเฉพาะรถไฟฟ้ารางเบา รองรับการพัฒนาของเมืองอีก 5-6 ปีข้างหน้า รวมถึงแก้ปัญหารถติดของจังหวัด ซึ่งผลศึกษามีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็น ผู้ศึกษา จะแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้

ด้าน "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวีดอลล่าเชี่ยน ผู้ประกอบการขนส่งจังหวัดขอนแก่น และ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (เคเคทีที) กล่าวว่า บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรัฐคือจังหวัดผลักดันโครงการรถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่นให้เดินหน้าได้เร็วขึ้น

ความคืบหน้าขณะนี้รอผลการศึกษาโครงการ จะเสร็จเดือน พ.ค.นี้ จะบอกว่าพัฒนาที่ดินรอบสถานี ระบบรางที่ใช้ และด้านการเงิน แล้วนำผลศึกษาไปยัง คจร.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังได้รับอนุมัติทั้ง 5 เทศบาลจะต้องนำผลศึกษานี้มาก่อสร้าง รวมถึงขอกรมทางหลวง (ทล.) ใช้พื้นที่ถนนมิตรภาพเพื่อก่อสร้าง ภายในปีนี้น่าจะได้เริ่มต้นก่อสร้างโครงการ

"จะเดินหน้าโครงการคู่ขนานไปกับการขออนุมัติอีไอเอ เพราะทั้ง 5 เทศบาลรับความเสี่ยงเอง โดยจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการโครงการนี้โดยเฉพาะ ดูเรื่องการพัฒนาที่ดินหรือ TOD และขอพื้นที่จากกรมทางหลวง"

ส่วนการระดมทุนจะผ่านกองทุนมี 2 รูปแบบ คือ 1.โดยทุนท้องถิ่นและทุนต่างประเทศที่สนใจ เช่น จีน ญี่ปุ่น สแกนดิเนเวีย และ 2.ทุนท้องถิ่นและทุนส่วนกลางคือกองทุนในกรุงเทพฯ ขณะนี้กำลังทำหนังสือชี้ชวน คาดว่าจะเสร็จกลางปีนี้ จากนั้นจะเริ่มโรดโชว์

ขณะที่การพัฒนาที่ดินรอบสถานี มี 3 ทำเล คือ 1.สถานีขนส่ง 3 เป็นที่ดินของเอกชนอยู่ในสมาคมอสังหาริมทรัพย์ 2.ศูนย์ทดลองข้าวอยู่ด้านข้างเซ็นทรัล เป็นที่ดินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 3.บ้านสำราญ ซึ่งการพัฒนาจะเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส มีพาณิชยกรรม ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย สวนสาธารณะ และการศึกษา

เป็นโมเดลที่เอกชนท้องถิ่นรวมตัวกันขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาจังหวัดให้เจริญรุดหน้า แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน ยังต้องรอดูนับจากนี้

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ