“บีทีเอส” พร้อมลงเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองต้นปี 61 ยันก่อสร้างไม่ล่าช้า เริ่มนับหนึ่งตามสัญญาตั้งแต่ รฟม.ส่งมอบพื้นที่  ขณะที่ส่วนต่อขยาย 2 สายทาง รอรฟม.ศึกษา โดย BTS ออกค่าใช้จ่าย ใช้เวลาประมาณ 1 ปี

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS  เปิดเผยถึงความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สายทาง คือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 46,643  ล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 45,797 ล้านบาทว่า ตามสัญญาแล้ว BTS จะเริ่มเข้าพื้นที่ช่วงต้นปี 2561 ซึ่งขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่เพื่อนำส่งให้ BTS โดยยืนยันว่า การดำเนินงานยังเป็นไปตามแผนไม่มีความล่าช้า โดย BTS มีเวลาก่อสร้าง 39 เดือน นับจากวันที่ รฟม.ส่งมอบพื้นที่ มิใช่นับจากวันที่ลงนามในสัญญา

ส่วนความคืบหน้าแผนการต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าสู่เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม. และต่อขยายสายสีเหลืองซึ่งจะสิ้นสุดเส้นทางตรงสถานีลาดพร้าว (รถไฟฟ้าใต้ดิน) ไปจนถึงแยกรัชโยธินเพื่อไปเชื่อมต่อกับสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 2.6 กม.นั้น รฟม.จะเป็นผู้รับผิดชอบจัดทำการศึกษาความเหมาะสม รวมทั้งรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยมี BTS เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากนั้น รฟม.จะนำส่งผลการศึกษาทั้งหมดไปยังคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อพิจารณา ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี

“หากภายใน 1 ปี เราได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายทั้ง 2 เส้นทางได้ ก็จะสามารถก่อสร้างส่วนต่อขยายให้เสร็จพร้อมกับเส้นทางหลักภายในระยะเวลา 39 เดือนตามสัญญา แต่หากไม่ได้รับการอนุมัติ ก็มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับปริมาณผู้โดยสารที่เคยคาดการณ์ไว้ อย่างสายสีชมพู ผู้โดยสารก็ต้องใช้บริการอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้ต่อเข้าเมืองทอง ก็ต้องลงรถไฟฟ้าแล้วหาทางต่อเข้ามาเมืองทองอีกที” นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์  กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้า การโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ว่า ล่าสุดทราบว่า คจร.ได้สั่งตั้งคณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กทม. และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาว่าจะให้งบประมาณอุดหนุนกทม. เพื่อนำมาชำระให้ รฟม.หรือไม่ และหากให้การอุดหนุนจะให้อย่างไร แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 ส.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการเดินทางบริเวณสถานีตากสิน คือ BTS กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยที่ประชุมได้ข้อยุติว่า จะไม่มีการย้ายสถานีรถไฟฟ้าตากสิน (S6) แต่ให้ก่อสร้างขยายสะพานตากสินออกไปข้างละ 1.8 เมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนน โดยจะมีช่องทางจราจรข้างละ 3 ช่องจรจาจรเช่นเดิม และขยายทางรถไฟฟ้าออกมาอีก 1.8 เมตร ซึ่งจะทำให้มีรางเพิ่มอีก 1 ราง ทำให้รถไฟฟ้าสามารถวิ่งสวนกันได้ ไม่ต้องรอหลีกรถเช่นที่ผ่านมา

นายอาคม กล่าวว่า การปรับปรุงสะพานตากสินและทางรถไฟฟ้าดังกล่าว จะใช้วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกทม.รับหน้าที่ไปหารือกับ BTS เพื่อจัดหางบประมาณมาดำเนินการ ขณะเดียวกันได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยผู้แทนจาก BTS ทช. กทม. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อร่วมกันออกแบบ โดยใช้เวลา 5 เดือน และทำการก่อสร้าง รวมระยะเวลาการปรับปรุงสะพานกับทางรถไฟฟ้าทั้งหมด 27 เดือน เปิดให้บริการได้เดือนธันวาคม 2562

อย่างไรก็ตามในระหว่างการปรับปรุงสะพานและทางรถไฟฟ้ายืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจร โดย ทช. จะเริ่มการก่อสร้างขยายพื้นสะพานก่อน เมื่อแล้วเสร็จจึงจะเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟฟ้า