BEM ปิดงบเริ่ด ไตรมาส 2/60 ฟันกำไรสุทธิ 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 43% เหตุเปิดบริการทางพิเศษศรีรัชฯ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงตั้งแต่ ส.ค. 59 ช่วยหนุนรายได้ ส่วนครึ่งปีแรกโชว์กำไรสุทธิ 1,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1%

นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยถึงผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2560 (เม.ย.-มิ.ย.) ว่า BEM มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 218 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.2% และมีรายได้รวม 3,735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 791 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.9% เนื่องจากรายได้จาก 3 ธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญจากการเปิดให้บริการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน ช่วงเดือนสิงหาคม 2559

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2/2560 BEM มีรายได้จากธุรกิจทางพิเศษ 2,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 238 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.8% โดยจำนวน 203 ล้านบาทของรายได้ค่าผ่านทางที่เพิ่มขึ้น เป็นรายได้จากทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก โดยช่วงไตรมาส 2/2560 มีปริมาณการจราจรที่ 47,600 เที่ยวต่อวัน ขณะทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.8% เพราะทางพิเศษนอกเมืองส่วน D มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาพื้นที่ฝั่งตะวันออก

อย่างไรก็ตามพบว่าปริมาณการจราจรบนทางพิเศษในเมืองเติบโตเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจาการโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ส่งผลให้ผู้ใช้ทางเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ส่วนทางพิเศษสายบางปะอิน-ปากเกร็ด มีรายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.3% เพราะการขยายตัวของชุมชนในเขตปริมณฑล

สำหรับธุรกิจระบบรางมีรายได้ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 519 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 88.9% โดยจำนวน 468 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้น เป็นรายได้จากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนรายได้ค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 23,300 เที่ยวต่อวัน

ด้านธุรกิจพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ มีรายได้ 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% เนื่องจากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจระบบราง และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการโฆษณาและประชาสัมพันธ์และการให้บริการโครงข่ายคมนาคม

ทั้งนี้เมื่อรวมงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) BEM มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.1% โดยมีรายได้รวม 7,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25%

นางพเยาว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 BEM ได้ลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีระยะเวลา 33 ปี โดยสายสีน้ำเงินประกอบด้วย สายเฉลิมรัชมงคล (รถไฟฟ้าใต้ดิน หัวลำโพง-บางซื่อ) และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค ซึ่งจะครบอายุสัมปทานพร้อมกันในปี 2593

สำหรับแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 สถานีหัวลำโพง-หลักสอง ระยะทาง 14 กิโลเมตร (กม.) เปิดให้บริการภายในเดือนกันยายน 2562 ช่วงที่ 2 สถานีบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กม. เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2563 ขณะที่ในวันนี้ (11 ส.ค.) BEM ได้เริ่มเปิดให้บริการเดินรถรอยต่อ 1 สถานี (1 กม.) จากเตาปูน (สายสีม่วง) ไปสถานีบางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) แล้ว

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา BEM ยังได้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กับทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือ (มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ) มีระยะเวลาดำเนินการ 18 เดือน