UNIQตัวเต็งงานภาครัฐซิวทางคู่ตุนพอร์ตแน่น
UNIQ คว้างานทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ มูลค่า 8,649 ล้านบาท หลังเสนอราคาต่ำสุด ชูเป็น 1 ใน 4 ตัวเต็งคว้างานภาครัฐ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เติมงานในมือ รับรู้รายได้ยาว 3-4 ปีข้างหน้า โบรกเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 25 บาท
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้เปิดให้เอกชนผู้ผ่านคุณสมบัติจำนวน 10 ราย เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auciton) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ โดยกำหนดราคากลาง 8,813 ล้านบาท ซึ่งผู้เสนอราคาต่ำสุด คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ โดยเสนอราคาที่ 8,649 ล้านบาท จากราคากลางที่ 8,813 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 164 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.86%
ทั้งนี้ในวันนี้ (5 ก.ย.60) ร.ฟ.ท.จะเปิดซองราคางานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์- บางสะพานน้อย ราคากลาง 6,579.91 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ราคากลาง 6,071.50 ล้านบาท โดยงานทั้ง 2 สัญญาได้เลื่อนการประมูลมาจากวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
และในวันที่ 7 กันยายน 2560 จะมีการเคาะราคาโครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญา 3 ที่เป็นงานอุโมงค์รถไฟ ราคากลาง 9,399.46 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญา 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม ซึ่งเป็นงานรถไฟยกระดับ ราคากลาง 10,147.05 ล้านบาท
งานใหม่ไหลเข้าเพิ่ม
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า UNIQ เป็น 1 ใน 4 ผู้รับเหมารายใหญ่ ที่มีโอกาสได้งานเพิ่มในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากยังมีงานที่จะเปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานประมูลรถไฟทางคู่สายต่างๆ ในช่วงวันที่ 1-10 กันยายนนี้ มูลค่ารวมราว 7.3 หมื่นล้านบาท
ขณะที่บริษัทยังคงเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2560 ไว้ที่ 10% หรืออยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.26 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นการรับรู้รายได้จาก Backlog ในปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปถึงปี 2565
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2560 ของ UNIQ เพิ่มขึ้น 19.5% จากปีก่อน และ 1.4% จากไตรมาสก่อน เป็น 215 ล้านบาท นำโดยรายได้และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น รายได้จากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน และ 1% จากไตรมาสก่อน ตามการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ด้านอัตรากำไรของ UNIQ อยู่ที่ 18.9% จากเดิมที่ 17.9% และ 18.5% ในช่วง 2Q/2559 และ 1Q/2560 ตามลำดับ
โบรกเคาะเป้าไกล 25 บาท
ด้านงานในมือ (Backlog) ของ UNIQ อยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ไปอีก 2 ปีข้างหน้า และมีโอกาสจะได้งานใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ต่อเนื่องถึงครึ่งปีแรก 2561 โดยงานใหม่เช่น รถไฟทางคู่, รถไฟฟ้า, ทางด่วน และรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน มูลค่าที่เหมาะสมเดิมอ้างอิง PER 24 เท่าสำหรับปี 2560 ปรับเป็น PER 20.4 เท่า สำหรับปี 2561 ทำให้มูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 24.50 บาท เป็น 25 บาท โดยมีความเสี่ยงคือ การก่อสร้างที่ล่าช้ากว่าคาด, ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากความล่าช้า, ราคาน้ำมัน และวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น