นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม เปิดเผยว่า มีแผนที่จะ เปิดให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง เร็วขึ้นประมาณ 1-2 เดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2562 ขยับมาเป็นเดือนกรกฎาคมสิงหาคม 2562 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนช่วงเตาปูน-ท่าพระก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดเร็วขึ้นจากเดิมเช่นกัน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดเดินรถเป็นช่วงๆ จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนมีนาคม 2563 ทั้งนี้เพื่อรองรับกับการขยายตัวของผู้ใช้บริการ บริษัทได้ทุ่มงบลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 35 ขบวน โดยขณะนี้ได้เร่งรัดการผลิตและทดสอบรถไฟฟ้า 3 ขบวนแรก ให้สามารถส่งมอบได้ภายในปลายปี 2561 เพื่อให้สามารถนำมาให้บริการในรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้ในช่วงต้นปี 2562

          "การเร่งรัดเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเร็วขึ้น ถือเป็นหนึ่งในความต้องการของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนโดยในส่วนของการรับมอบรถ บริษัทจะพยายามเร่งรัดทุกอย่าง เพื่อให้สามารถส่งมอบรถได้เร็วที่สุด หากต้องขนส่งขบวนรถไฟฟ้าด้วยเครื่องบินก็ยินดี แม้อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น" นายสมบัติกล่าว

          นายสมบัติกล่าวว่า ขณะที่เปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ จำนวน 1 สถานี ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้าสายสีม่วงกับสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำให้ ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 30,000 เที่ยว เป็นมากกว่า 50,000 เที่ยว และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 340,000 เที่ยว เป็นมากกว่า 360,000 เที่ยว และสูงสุดถึง 400,000 เที่ยวในบางวัน ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยจาก 6.99 ล้านบาทต่อวัน เป็น 7.72 ล้านบาทต่อวัน ทำให้ประมาณว่าทั้งปี บริษัทน่าจะมีรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้า 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัท มีรายได้รวม 7,505 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้า 2,230 บาท กำไรสุทธิ 1,432 ล้านบาท หรือขยายตัว 18,54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน