นายเอกราช เขื่อนขันธ์สถิต ผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ 1 สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.มีแผนกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี วงเงิน 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อเข้ามาใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ(วงแหวนกาญจนาภิเษก) มูลค่าโครงการกว่า 85,000 ล้านบาท โดยขณะนี้เอดีบีได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดคาดว่าจะเสร็จและเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในปีหน้า

"การขอกู้เอดีบีมาใช้ลงทุนรถไฟฟ้าสายสีม่วงถือเป็นการกู้ต่อเนื่อง หลัง ครม.เพิ่งอนุมัติให้กู้เอดีบีมาใช้ก่อสร้างโครงการทางหลวงหมายเลข 22 และหมายเลข 23 โดยการใช้แหล่งเงินทุนสำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีการตั้งเป้าหมายใช้แหล่งเงินจากภายในประเทศประมาณ 90% ของมูลค่าโครงการ 85,000 ล้านบาท และแหล่งเงินต่างประเทศอีก 10% ซึ่งมีเอดีบีได้เสนอเงื่อนไขการให้กู้มาที่ 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงเข้ามาช่วยในเรื่องการสร้างธรรมาภิบาล ในการดำเนินโครงการลงทุนให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากลอีกด้วย"

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ครม.วันที่ 21 พ.ย.60 เห็นชอบให้ใช้เงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย 3,404 ล้านบาท  เป็นแหล่งเงินทุนให้กรมทางหลวง ก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงอำเภอหนองหาน-อำเภอพังโคน และช่วงสกลนคร-นครพนม และทางหลวงหมายเลข 23 ช่วงร้อยเอ็ด-ยโสธร ซึ่งมีมูลค่าก่อสร้างทั้งโครงการ 6,808 ล้านบาท

ทั้งนี้สัดส่วนแหล่งเงินที่ใช้ในโครงการนี้จะมาจากการกู้เอดีบีและวงเงินงบประมาณอย่างละครึ่ง โดยในส่วนของการกู้เอดีบีมีอายุเงินกู้ 13 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 3 ปี ดอกเบี้ย 2% ลงนามสัญญากู้เงินได้เดือนพ.ค.61 และเริ่มก่อสร้าง ก.ค. เป็นต้นไป มีระยะเวลา 4 ปีครึ่ง โดยสร้างเสร็จจะช่วยพัฒนาโครงข่ายถนนสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงอาเซียนในส่วนที่ผ่านไทย ให้เดินทางและขนส่งสินค้าเชื่อมโยงไปยังลาว และเวียดนาม